scenenonym

26/01/2024

❤️

23/08/2023

คนที่ 'รู้จัก' คุณน้อยที่สุด
คือคนที่ 'พูด' ถึงคุณมากที่สุด
คนที่บอกว่าคุณ 'ไม่ดี' อย่างงั้นอย่างงี้
คือคนที่ 'อิจฉา' คุณอยู่ลึกๆ
คนที่บอกว่าคุณ 'ทำไม่ได้'
คือคนที่ตัวเองก็ 'ไม่ได้ทำ'
คนที่ 'วิจารณ์' ผลงานคุณหนักที่สุด
คือคนที่ไม่มี 'ผลงาน' ที่จับต้องได้
คนที่ 'ดูถูก' ว่าคุณไม่เก่ง
คือคนที่ 'ทำไม่ได้' อย่างที่คุณทำ
คนที่บอกว่าคุณ 'บ้า'
คือคนที่โคตรธรรมดาและถูก 'มองข้าม'
คนที่บอกว่าคุณรวยแล้ว 'อวด'
คือคนที่ถ้ารวยแล้วจะ 'อวด' ยิ่งกว่าคุณ
คนที่ 'หมั่นไส้' ในความมั่นใจของคุณ
คือคนที่ 'รู้สึกแย่' กับตัวเขาเอง
โลกนี้ ช่าง 'น่าขำ' !!!!!

04/07/2023

เวส แอนเดอร์สัน : ผู้กำกับสีลูกกวาดรสขม กับสไตล์ที่เด่นจนกลายเป็นไวรัล แต่เจ้าตัวกลับไม่อยากเห็น
“You better not be acting like you’re in a Wes Anderson film…”
หากคุณกำลังไถ Tiktok อยู่แล้วไปเจอเข้ากับวิดีโอที่มีเนื้อความข้างต้นปรากฎอยู่คู่กับเสียงดนตรีที่มาจากเครื่องสายที่สุดแสนจะเป็นที่นิยมในช่วงยุคกลางนามว่า ‘ลูท’ (Lute) พร้อมกับวิดีโอที่อะไร ๆ ก็สีสันเหมือนลูกกวาดและทุกอย่างดูจะสมมาตราไปเสียหมด คุณน่าจะไถไปเจอเข้ากับวิดีโอจากเทรนด์ สุดไวรัล ที่มีผู้คนนับล้านทั่วโลกพากันทำตาม ๆ กัน
ไม่เพียงแต่ความนิยมนี้จะจำกัดอยู่ในวงความสนใจของการสร้างสรรค์วิดีโอของมนุษย์เท่านั้น เพราะเทรนด์ดังกล่าวยังลามไปถึงภาพที่ถูกสร้างจาก A.I. อีกด้วย (A.I. Generated Image) โดยที่เห็นเป็นส่วนใหญ่ก็คือการนำหนังดังหลายเรื่อง มาฉาบให้ออกมาเป็นสไตล์แบบ เวส แดนเดอร์สัน ไม่ต่างอะไรจากวิดีโอสั้น ๆ ใน Tiktok เลยแม้แต่น้อย
เพียงแต่เราจะได้เห็นฉากต่าง ๆ จาก Star Wars, Avatars หรือแม้แต่ภาพยนตร์ของ เควนติน ทารันติโน (Quentin Tarantino) ถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบ ‘ถ้า … กำกับโดย เวส แอนเดอร์สัน’
ในบทความนี้เราจึงอยากพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเขาคนนี้ ชายที่สไตล์ของเขาดังไกลไปทั่วทั้งโลก ว่าเขาเป็นใคร ภาพยนตร์ของเขามีลักษณะอย่างไร และเขาคิดเห็นอย่างไรกับเทรนด์เหล่านี้บ้าง
‘เวส แอนเดอร์สัน’ (Wes Anderson) หากผู้อ่านท่านใดที่เป็นคอหนังก็คงจะพอคุ้นชื่อของเขาอยู่บ้างเป็นแน่ เพราะไม่ว่าจะเป็น The Grand Budapest Hotel (2014), Moonrise Kingdom (2012), หรือ Fantastic Mr. Fox (2009) ถือเป็นเหล่าภาพยนตร์ที่ควรลองเปิดชมสักครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าคุณจะดูหนังเพื่อหวังความบันเทิงหรือจะดูหนังและอยากจะเห็นอะไรที่แปลกใหม่
เมื่อกล่าวถึง ‘หนังเวส แอนเดอร์สัน’ จะมีองค์ประกอบจำนวนหนึ่งที่สามารถนำมาผสานรวมกันเป็นภาพจำที่ใครหลายคนมีต่อสไตล์ของเขาได้ แล้วองค์ประกอบเหล่านั้นมีอะไรบ้าง?
องค์ประกอบภาพแบบสมมาตร (แบบเป๊ะ ๆ)
สีสันสวยสดเสมือนหลุดออกมาจากฉากในการ์ตูน
บทสนทนาแบบโมโนโทนที่ร่ายยาวและตลกร้าย
สีหน้าของตัวละครที่เรียบเฉยไม่ต่างอะไรจากเสียงของพวกเขา
ฟอนต์อันเป็นเอกลักษณ์
เสียงดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ (และมักประพันธ์โดย อเล็กซานเดอร์ เดสแพลท (Alexandre Desplat))
สไตล์ของ เวส แอนเดอร์สัน ที่สวยงามเสมือนหลุดมาจากการ์ตูน ในขณะเดียวกันกับเนื้อหาตลกร้าย (ที่หลาย ๆ ครั้งไม่เหมาะสำหรับเด็ก) จึงทำให้ภาพยนตร์ของ เวส แอนเดอร์สัน มีเสน่ห์ในตัวเองที่ผสมผสานความหวานกับความขมจนออกมาลงตัว
เขาจึงถือเป็นผู้กำกับคนหนึ่งที่มีสไตล์ที่ชัดเจนมากที่สุดคนหนึ่ง ข้างเคียงไปกับ ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) หรือ เควนติน ทารันติโน เลยทีเดียว จนผู้คนธรรมดาสามารถเลียนแบบสไตล์ของเขาได้อย่างง่ายดาย
หากเป็นใครหลายคนได้เห็นสิ่งที่ตัวเองทำเป็นที่นิยมจนเป็นไวรัลก็คงภูมิใจไม่น้อย แถมยังเป็นบทพิสูจน์ว่าเขาเหล่านั้นมีตัวตนที่ชัดเจนมาเสียทั้งคนและ A.I. สามารถจำได้ (และถึงขั้นนำไปทำ Tiktok) แต่อาจไม่ใช่กับ เวส แอนเดอร์สัน
“ขอร้องนะ และขอโทษด้วย แต่อย่าส่งวิดีโอพวกนั้นมา”
เวส แอนเดอร์สัน ดูจะไม่ค่อยพิสมัยกับกระแสไวรัลนี้เสียเท่าไร โดยเจ้าตัวให้เหตุผลเอาไว้ว่าเขาไม่อยากจะเห็นสิ่งที่ผู้คนคิดว่าเขาพยายามจะทำหรือพยายามจะเป็น ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าการกระทำนี้คือการปกป้องตัวเองจากสิ่งเหล่านั้น เขาไม่อยากจะเห็นวิดีโอเหล่านั้นแล้วเกิดความรู้สึกทำนองว่า ‘นี่ฉันทำอะไรแบบนั้นไปหรอเนี่ย?’ และเมื่อมีคนส่งอะไรแบบนั้นมาให้เขา เขาจะลบมันออกไปในทันที
แม้ว่าเจ้าตัวอาจจะไม่ชอบมันเสียเท่าไหร่นัก แต่ผู้คนและแฟน ๆ ต่างก็ชอบสไตล์ของเขาเป็นอย่างมาก จนมันเป็นบ่อเกิดให้ความสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ อีกมากมาย ไม่เพียงแค่งานของเขาสร้างสีสันในหนังตัวเองให้สดใส แม้เรื่องราวแท้จริงจะมืดหม่น แต่เขายังเป็นนักทำหนังอีกคนหนึ่งที่ช่วยละเลงสีสันให้โลกภาพยนตร์ มีอีกเสน่ห์ทางเลือกให้ผู้ชมทั่วทั้งโลกได้ลิ้มลอง
เรื่อง: รัฐฐกรณ์ ศิริฤกษ์
ภาพ: Getty Image / IMDb / Tiktok:
#ภาพยนตร์

03/03/2023

❤️

อัลแบร์ กามูส์ คือหนึ่งในนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของโลกที่เคยมีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลมาก่อน

02/01/2023

20 แนวคิดที่เราอยากใช้กับชีวิตในปีหน้า

1. “ไม่มีการบริหารความสัมพันธ์ไหน ที่คุ้มค่ามากไปกว่าการบริหารความสัมพันธ์กับตัวเราเอง” ใจดีกับตัวเองให้มาก ให้กำลังใจตัวเองให้มาก ให้อภัยตัวเองให้มาก คนที่เราควรสนิทและดูแลรักษาใจให้ดีที่สุดคือตัวเราเอง เพราะคนนี้คือคนเดียวเท่านั้นที่จะอยู่กับเราไปตลอดตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง

2. “อย่าเหนื่อยกับการพยายามทำให้ใครเข้าใจ” หรืออย่าเสียเวลาไปกับการทำให้ทุกคนรู้สึกดีกับเรา ทุกคนมีเรื่องที่ “อยากเข้าใจ” ในตัวเราแตกต่างกันออกไป เราไม่ได้เกิดมาเพื่อต้องพิสูจน์ตัวเองกับใคร ลองหันกลับมาโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองรัก แคร์คนที่ควรแคร์และใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีต่อไปก็พอ

3. “อย่าใจดีเกินไปจนกลับมาทำร้ายตัวเอง” น้ำใจ ความหวังดี และโอกาส ใช้ได้กับคนบางคนเท่านั้น คนที่เห็นค่าจะรักษามันไว้อย่างดี แต่กับบางคนก็ย่ำยีความหวังดีของเรา มีคนอีกมากมายในโลกใบนี้ที่พร้อมเอาเปรียบจากความใจดีของผู้อื่น และสุดท้ายคนที่เสียความรู้สึกที่สุดคือฝ่ายที่มอบไป จงเลือกให้สิ่งสำคัญนี้ให้ถูกคน

4. “พยายามออกห่างจากความ Toxic ทั้งหลายในชีวิต” ไม่ว่าจะเป็นคน สังคม Social หรือความสัมพันธ์ ที่ตรงไหนที่ไม่ใช่ที่ของเรา ที่ตรงไหนที่อยู่แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย ความสัมพันธ์ไหนที่อยู่แล้วเป็นพิษ เอาตัวเองออกมาช่วยคืนเวลาความสุขของชีวิตได้มาก และจงจำไว้ว่าตรงไหนที่ใช่ เราจะอยุ่กับความสัมพันธ์ตรงนั้นได้แบบอุ่นใจ สบายใจ และเต็มไปด้วยด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

5. “ชีวิตเป็นของเรา อยากทำอะไรก็ทำ” ทุกช่วงอายุมีวิถีทางของการเรียนรู้ การเติบโต และการหาความสุขในรูปแบบของตัวเอง ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราเองมีความสุข ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน จะตายวันตายพรุ่งไม่มีใครรู้ แถมอายุมากขึ้นข้อจำกัดในชีวิตก็มากขึ้น พลังทั้งร่างกายและจิตใจก็จะลดลง อยากทำอะไรที่มีความสุขในปัจจุบัน...ทำไปเถอะ

6. “อาจจะเริ่มต้นด้วยการไปนวด ไปเที่ยว หรือชอปปิ้ง” การใช้เงินที่หามาในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ทำได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด ผ่อนคลายบ้าง ลดความตึงทั้งกล้ามเนื้อและจิตใจบ้าง อย่าคิดถึงอนาคตจนเกินไปจนลืมไปว่าวันนี้ก็คือชีวิต

7. “อย่าเอามาตรฐานตัวเองไปตัดสินใคร” ทุกคนมีการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่ต่างกัน บางคนการไปเที่ยวคือการใช้ชีวิตที่คุ้มค่า บางคนการทำงานคือการใช้ชีวิตที่คุ้มค่า หรือบางคนการนอนอยู่บ้านดูหนังหรือเล่นกับหมาแมวก็คือการใช้ชีวิตที่คุ้มค่า ทุกคนมี Lifestyle ของการผ่อนคลายที่ต่างกัน ยอมรับในความแตกต่างนั้นและให้เค้าได้อิ่มเอมในสิ่งที่เค้าต้องการ

8. “และแน่นอนอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นด้วย” ต้นทุนชีวิตของคนเราไม่เคยเท่ากัน ดังนั้นสิ่งใดที่เค้าทำได้ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทำได้ หรือต้องทำ ชีวิตของแต่ละคนมีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน มีความชอบที่ต่างกัน มีเป้าหมายที่ต่างกัน ทุกคนมีทางเดินของตัวเอง รักษาทางนั้นไว้และเดินในแบบที่เราเป็นก็พอ

9. “ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต” อย่าจมกับมันหรือลงโทษตัวเองด้วยการไม่ให้อภัยในเรื่องที่เคยเจ็บปวด สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วสิ่งนั้นดีเสมอแม้แต่ความชิบหาย อย่างน้อยมันช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ให้เราไม่กลับไปจุดนั้นซ้ำ หรือถ้ามันต้องเกิดอีกครั้งเราก็จะหาทางรับมือกับมันได้ง่ายขึ้น พายเรือไม่เก่งขึ้นถ้าไม่ผ่านกระแสน้ำที่เกรี้ยวกราดฉันใด ชีวิตที่ไม่เคยผิดพลาดก็ไม่ผ่านประสบการณ์ที่เข้มแข็งฉันนั้น

10. “เหนื่อยมากไปนอน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่” การนอนไม่ได้มีประโยชน์แค่การพักผ่อน แต่มันเป็นการผ่านก้าวไปสู่วันใหม่ เป็นการเริ่มต้นมวลพลังของเราให้พร้อมสู้กับทุกอย่างอีกครั้ง

11. แต่ใดๆสิ่งที่เราควรระลึกไว้เสมอคือเราควบคุมทุกอย่างในชีวิตไม่ได้ บางครั้งในสถานการณ์ที่เลวร้าย ในปัญหาที่แก้ไม่ได้ หรือในความผิดหวังครั้งใหญ่ บรรเทาได้ด้วยคำว่า “ช่างแม่ง”

12. “รับผิดชอบในสิ่งที่เราพูด” เพราะคำพูดเป็นสิ่งทรงพลังที่ส่งผลได้อย่างมหาศาล และสิ่งที่เราสื่อสารล้วนมีผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะทางบวกหรือทางลบ เรียนรู้ว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด หรือสิ่งใดควรพูดแต่ควรพูดด้วยวิธีไหน ศิลปะในการสื่อสารเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตเสมอ

13. “กฏของแรงดึงดูด ยังทำงานของมันและได้ผลดีไม่ว่าจะปีไหน” อยากเป็นคนทัศนคติแบบไหน ให้เอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น อยากมีความสัมพันธ์หรือความสุขแบบไหน ก็เริ่มจากการทำให้ตัวเองให้เป็นแบบนั้น

14. “ในแต่ละปีมีคนที่จากไป คงอยู่ และเพิ่มเติมเสมอ” ทุกคนรอบตัวของเราต่างดึงดูดและผลักออกซึ่งกันและกันในทุกช่วงวัย รู้จักรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้ และรู้จักตัดความสัมพันธ์ที่แย่ทิ้ง เราไม่มีทางรักษาทุกความสัมพันธ์เอาไว้ได้ เพื่อนน้อยลงหรือมีคนบางคนหายไปในแต่ละปีเป็นเรื่องปกติ จำไว้ว่ามิตรภาพที่ดีไม่ได้อยู่ที่ปริมาณที่เยอะ แต่อยู่ที่คุณภาพที่มี

15. “ความไว้ใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกมิตรภาพ” และความสัมพันธ์ที่ดีจะมอบสิ่งนี้ให้กับเรา ทำให้เรากล้าพูดแม้มุมที่เราอ่อนแอที่สุด มิตรที่ดี คือมิตรคอยระวังหลังให้กัน ไม่ใช่แทงข้างหลังกัน คอยเตือนเราต่อหน้าแต่ไม่เอาไปพูดลับหลังหรือบิดเบือนความจริงกับคนอื่น และที่สำคัญอยากมีมิตรที่ดี อย่าลืมเป็นมิตรแบบนั้นกับคนที่เค้าไว้ใจเราด้วย

16. “ยอมรับการตักเตือนจากคนที่หวังดีให้ได้” มิตรที่ดีไม่ใช่มิตรที่เห็นด้วยหรือตามใจเราทุกอย่าง แต่มิตรที่ดีคือมิตรที่มองเห็นจุดผิดพลาดของเราและกล้าพูดออกมาด้วยความจริงใจ การมีคนรอบข้างที่คอยตักเตือนเมื่อเรามีปัญหา เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตไม่เดินไปถึงจุดที่ผิดพลาด

17. “อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลงในชีวิต” ต้นไม้ไม่มีวันโตขึ้นถ้าไม่ย้ายกระถาง รากอาจจะบอบช้ำ หรือลำต้นอาจจะเสียหายระหว่างทาง แต่สุดท้ายเมื่อผ่านการปรับตัวต้นไม้จะผลิดอกออกผลอย่างที่ควรจะเป็น ชีวิตก็เช่นกัน ทุกการเปลี่ยนแปลงอาจตามมาด้วยการสูญเสียหรือเจ็บปวด แต่ท้ายที่สุดทุกการเคลื่อนที่ของชีวิตจะทำให้เกิดการเติบโตเสมอ

18. “จงเลือกงานที่เหมาะสมกับเรา” งานที่ทำแล้วได้ผลตอบรับที่คุ้มค่ากับสิ่งที่เราลงแรง รวมถึงความสบายใจในสังคมที่ทำงาน เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ไม่เลือกงาน ไม่ยากจนอาจจะจริง แต่การเลือกงาน ก็ทำให้เราได้รับในสิ่งที่สมควรได้รับ และมีความสุขขึ้นได้เช่นกัน

19. “ความสุขของตัวเองคือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุด” ทั้งมิตรภาพ การงาน การเงิน หรือสังคม การรักตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่การรักตัวเองทำให้การดำเนินชีวิตง่ายขึ้น และเมื่อสุขภาพจิตดีเราก็สามารถเผื่อแผ่มันไปยังคนรอบตัวได้ อย่าลืมมีความสุขให้ง่ายขึ้น แล้วลองเคลื่อนที่ชีวิตให้ช้าลง อาจจะพบความสวยงามระหว่างทางที่เราไม่เคยเห็นได้

20. และสุดท้าย “เวลายังทำหน้าที่ของมันในทุกวัน” ในขณะที่เวลาเดินหน้า แต่เวลาชีวิตของเรากลับถอยหลัง โปรดจำไว้ว่าเวลาเป็นของที่มีจำกัดและมีคุณค่า ดูแลและเอาใจใส่ความพันธ์ที่เรารัก เลือกใช้ชีวิตกับคนที่สำคัญกับเรา และเราสำคัญกับเค้า ให้มากที่สุดตราบเท่าที่ยังมีโอกาส

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านค่ะ
ขอบคุณสำหรับปีนี้
ฝากตัวสำหรับปีหน้า
และขอให้เป็นปีที่ดีกว่า
สำหรับทุกคนนะคะ

รัก

ช่า บันทึกของตุ๊ด

07/06/2022

1 มิถุนายน 2565 น่าจะเป็นอีกหนึ่งวันที่ผมจะจดจำไปตลอดทั้งปี เพราะเปี่ยมไปด้วยความหวัง และเหมือนเราได้เริ่ม.....

11/05/2022

06/04/2022

ใครชอบอ่านแนวจิตวิทยา แนวสำรวจพฤติกรรม และอารมณ์ของมนุษย์ เรารวมลิสต์หนังสือด้านเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมอ่านง่ายจาก ‘ณัฐวุฒิ เผ่าทวี’ มาให้เลือกแล้ว!
— THE HAPPINESS MANUAL พฤติกรรมความสุข
ความเรียงอิงประสบการณ์ที่จะพาคุณไปค้นหาความหมายของ ‘ความสุข’ ผ่าน ‘พฤติกรรม’ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันว่าการกระทำของเรานั้นส่งผลกับสภาพอารมณ์และชีวิตในวันข้างหน้าขนาดไหน
— A GUIDE TO BEHAVING BETTER ทุกพฤติกรรมมีความเสี่ยง โปรดอย่าลำเอียงก่อนตัดสินใจ
ทำความเข้าใจที่มาของพฤติกรรม และรู้เท่าทันความคิดที่โอนเอียง เพื่อนำตัวเองออกจากความเสี่ยง และตัดสินใจอย่างเฉียบคม ผ่านการสำรวจว่า ทำไมการเปลี่ยนใจกลับมาชอบคนที่เกลียดตั้งแต่แรกพบถึงเป็นเรื่องยาก ทำไมข่าวจริงถึงเอาชนะข่าวปลอมไม่ได้ และทำไมเราถึงอยากรู้เหตุผลที่คนรักบอกเลิก?
— THE EMOTIONAL MAN มนุษย์อารมณ์
เชื่อไหมว่าคนเราไม่ได้ใช้เหตุผลในทุกการตัดสินใจ เชื่อไหมว่าคนเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอนาคต เชื่อไหมว่าความตื่นเต้นจากการดูหนังสยองขวัญทำให้เข้าใจว่าตกหลุมรักคู่เดตได้ และอีกหลายเรื่องที่จะพาคุณไปพบกับความเป็นจริงที่ว่า พวกเราเป็น ‘มนุษย์อารมณ์’ กันทั้งนั้น
— HOW HAPPINESS WORKS AND WHY WE BEHAVE THE WAY WE DO ความสุขทำงานยังไง?
32 บทความว่าด้วยพฤติกรรมที่เกี่ยวพันกับอารมณ์ของมนุษย์ ที่จะชวนมนุษย์อย่างเราๆ ตั้งคำถามถึงพฤติกรรมของตัวเองว่าถ้ามีโอกาสคุณจะนอกใจแฟนมั้ย? ถ้ารวยขึ้นจะมีความสุขจริงหรือเปล่า? คุณยอมรับความผิดหวังในชีวิตได้มากแค่ไหน? พฤติกรรมทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับความสุขยังไง และหลักเศรษฐศาสตร์สัมพันธ์กับชีวิตมากแค่ไหน
— THE WHYS OF LIFE ชีวิตต้องสงสัย
รวมบทความที่ตั้งต้นด้วยคำถาม จับความสงสัยที่มีต่อพฤติกรรม อารมณ์ ความสุขของคนเรา เช่น ทำไมเราถึงไม่สนิทกับเพื่อนเหมือนเดิม, ทำไมผู้ใหญ่จึงมอง ‘เด็กสมัยนี้’ แย่กว่าเป็นความจริง, ทำไมคนเราถึงกลัวการลาออกจากงานที่เกลียด อธิบายให้เข้าใจด้วยหลักพฤติกรรมศาสตร์ จิตวิทยา และเศรษฐศาสตร์ ผ่านตัวอย่างและงานวิจัยที่ย่อยง่าย เพื่อให้นำไปปรับใช้ได้ในชีวิตจริง
จะไปหยิบจับที่งานวันพรุ่งนี้ หรือช้อปออนไลน์ก็ได้ store.minimore.com/salmonbooks

#งานหนังสือ

28/02/2022

'การตายนี้ฉันเป็นคนเลือกเอง'
เรื่องของคนอยากตาย แต่สุดท้ายแม้แต่วิธีตายก็ยังเลือกเองไม่ได้ !!

#รีวิวหนังสือ เดอะเฮเวน - คาเฟ่สำหรับผู้โหยหาความตาย เนื้อเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้อาจมีบางส่วนที่สปอยนะครับ

เรื่องเล่าของกลุ่มคนที่หมดหวังในการใช้ชีวิต โหยหาที่อยากจะจบชีวิตของตัวเองลง แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะตายอย่างโดดเดี่ยว ‘แทซอง’ ตัวเอกของเรื่อง ตื่นมาพร้อมกับอาการสูญเสียความทรงจำ แต่กระนั้นข้อมูลที่ตัวเองได้รับรู้จากคนรอบตัวก็ช่างปวดหัวใจ เพราะเขาเองเกือบจะต้องตายเพราะถูกพ่อกับแม่ฆ่า ชีวิตของแทซองเหมือนขบวนรถไฟที่ตกหล่ม จะไปต่อก็ไม่ได้ ในเมื่อแม้คนที่เขารักมากที่สุดยังอยากให้เขาตาย และนั่นคือเป้าหมายของแทซอง ‘ถ้าเขาตาย พ่อกับแม่คงจะภูมิใจ’

แทซองได้พบกับ เดอะเฮเวน เว็บบล๊อคหนึ่งที่เป็นศูนย์รวมของผู้ที่กำลังค้นหาข้อมูลเพื่อที่จะฆ่าตัวตาย คนไหนที่ได้รับเลือกจะมีผู้ดูแลที่ใช้ชื่อว่า เมสสิอาห์ ทักไปเพื่อนัดแนะสถานที่

เพราะฉะนั้นนี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการนัดกัน 'ฆ่าตัวตายหมู่' เกิดขึ้น ต่างคน ต่างความเป็นมา ต่างปัญหา มารวมกันในสถานที่ๆ เดียวเพื่อจะจบชีวิตพร้อมกัน

ถ้าคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นแนวคนหมดอาลัยตายอยากจะมานั่งจับเข่า ชนแก้วโซจู พูดคุยกันว่าชีวิตใครเลวร้ายที่สุด จากนั้นแต่ละคนก็ enlightened ว่าโอเคไม่ตายดีกว่ากลับบ้านกันเถอะ ชีวิตเรามันมีอะไรมากกว่านั้น...

ผิดแล้วไม่ใช่เลยครับ!!! เรื่องนี้มีกลิ่นของความลึกลับ คำถาม และความลับที่แต่ละตัวละครซ่อนเอาไว้ข้างในลึกๆ มันทำให้คนอ่านอย่างเราอินและอยากรู้ ดำดิ่งไปกับภูมิหลังของแต่ละตัวละคร Pain ของแต่ละคน

เงื่อนไขของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ก่อนตายขอเพียงอย่างเดียว เดอะเฮเวนจะเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนขอในสิ่งที่จะเป็นความสุขครั้งสุดท้ายก่อนตาย ความสุขที่ไม่เคยได้รับมาก่อน อยากทำอะไร อยากกินอะไร อยากจะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายนี้แบบไหน คุณจะได้รับสิ่งเหล่านั้นในระยะเวลา 5 วันต่อจากนี้ แต่เรื่องก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิดเพราะภายในเช้าวันแรกหนึ่งในนั้นถูกพบในร่างไร้วิญญาณ ท่ามกลางความสงสัยว่าเธอตายด้วยความเต็มใจจริงๆ หรือไม่

นั่นแหละครับ... เรื่องยิ่งทวีความลึกลับขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะจากที่นัดกันตายพร้อมกัน กลับมีคนทะยอยตายกันไปทีละคน โดยมีลักษณะเหมือนฆ่าตัวตาย จนเกิดคำถามที่ว่า คนเหล่านี้ตั้งใจฆ่าตัวตายเองหรือเปล่า หรือว่ามีคนอยู่เบื้องหลังกันแน่

สุดท้ายจากความต้องการจะตาย กลับกลายเป็นอยากมีชีวิตรอด เพราะพวกเขาเอง ก็ได้รู้ว่าชีวิตที่พวกเขาต้องการจะทอดทิ้งมีคุณค่ามากกว่านั้น

หลังจากอ่านจบแล้ว 'ผมบอกได้คำเดียวเลยว่า นิยายเรื่องนี้เป็นมากกว่าที่คุณเห็น' มันเกินจินตนาการของเราไปค่อนข้างไกลเลยทีเดียวล่ะ

โทนเรื่องปูมาแบบเรียบมาก แต่ลึกๆ ในใจจะมีคำถามก่อตัวขึ้นมาทีละเล็กละน้อย และมาระเบิดตูมเอาช่วงกลางเรื่อง แม่เจ้าโว้ยยย !! อะไรกันเนี่ย ความสนุกเหมือนเราได้ดูหนังเรื่องหนึ่งที่พล๊อตมัน Twist ไปมา

และสุดท้ายนิยายเรื่องนี้สำหรับเราเป็นเรื่องที่โคตรเรียล เล่าเรื่องตรงไปตรงมา ตีแผ่ระบบทุนนิยม อำนาจเงินตรา และความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ ที่ดำมืดเสียจนเราคาดเดาไม่ถึงเลยจริงๆ เดอะเฮเวน - คาเฟ่สำหรับผู้โหยหาความตาย เรื่องนี้ผมแนะนำจริงๆ ต้องจัดดดดด

สนใจอ่านผมแปะลิงก์สั่งซื้อไว้ให้นะครับ
https://bit.ly/3BVJVTD