20/08/2023
📔สูตรวิธีทำ ปุ๋ยเร่งดอก เร่งการออกดอก ออกผลไว เพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร📌
เชื่อเลยว่า เกษตรกร หลาย ๆ คน คงอยากจะมี พืชไม้ดอก ที่โตไว สีสวยสดใส และออกดอกออกผลไว นอกจากการรดน้ำต้นไม้ และดูแลเรื่องแสงแดดแล้ว การให้อาหารเสริมอย่าง ปุ๋ยเร่งดอก ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ในการช่วยเร่งให้พืชออกดอก ออกผล และมีสีสันสวยงาม เพื่อให้ทันต่อการจัดจำหน่ายในท้องตลาด
📣บทความนี้ “พฤกษา ดอยคำ” จะชวนไปรู้จักกับ ปุ๋ยเร่งดอก พร้อมสูตรวิธีทำปุ๋ยเร่งดอก กันว่าจะทำได้อย่างไรบ้าง ไปดูกันเล้ยยย 😉
ปุ๋ยเร่งดอก คือ ปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสสูงกว่าธาตุอาหารชนิดอื่น ๆ เพราะฟอสฟอรัส เป็นธาตุอาหารที่กระตุ้นการออกดอกในพืช ทั้งในไม้ผล และไม้ดอก เป็นการส่งเสริมให้พืชมีความสมบูรณ์ พร้อมสำหรับการออกดอกตามช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมกับช่วยให้ดอกที่ได้มีสีสันสวยงาม มีขั้วดอกแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายด้วย
📍 ประเภทของปุ๋ยเร่งดอก
ปุ๋ยเร่งดอกนั้น มีทั้งแบบปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมี สามารถแบ่งได้ตามชนิด ดังนี้
ปุ๋ยเร่งดอกแบบแห้ง คือ ปุ๋ยเม็ด มีกระบวนการผลิตให้แต่ละเม็ดมีขนาด และปริมาณธาตุอาหารเท่า ๆ กันตามสูตรของผู้ผลิต นอกจากนี้ อาจจะเป็นเกล็ด ผง หรือมีลักษณะคล้ายดินร่วนได้ แต่คุณสมบัติจะเหมือน ๆ กันหมด คือ มีค่าความเข้มข้นสูง ละลายน้ำได้ดี สามารถใช้งานได้ทั้งแบบโรย หรือผสมกับดินปลูก และผสมน้ำ เพื่อฉีดพ่นบริเวณใบของพืชที่เพาะปลูกได้
ปุ๋ยเร่งดอกแบบน้ำ คือ ปุ๋ยเร่งดอกพร้อมใช้งาน ไม่ต้องผสมน้ำเพิ่มอีก ยกเว้นบางยี่ห้อที่มีความหนืด อาจจะผสมน้ำได้ตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้ใช้งานได้ง่าย มีคุณสมบัติ คือ ความเข้มข้นไม่สูงมากนัก สามารถให้ทางรากพืชโดยตรงได้ และยังเหมาะสำหรับใช้ทดสอบว่า สูตรปุ๋ยนั้น ดีต่อพืชที่เพาะปลูกหรือไม่ด้วย
📔 3 สูตรปุ๋ยเร่งดอก ทำเองได้ไม่ยาก
1. สูตรปุ๋ยเร่งดอกฮอร์โมนไข่
เป็นสูตรที่ใช้วัตถุดิบน้อย ทำได้ง่าย ช่วยเร่งดอก เร่งผลได้ดี สามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิดด้วย โดยสูตรนี้จาก คุณอิทธิพล บัวศรี เกษตรกรผู้เชี่ยวชาญการปลูก และขยายพันธุ์ไม้จากมหาสารคาม
วัตถุดิบ
ไข่ไก่สด 2 กิโลกรัม
น้ำตาล หรือกากน้ำตาล 2 กิโลกรัม
นมเปรี้ยว 2 กิโลกรัม
แป้งข้าวหมาก 2 ลูก
น้ำมะพร้าวอ่อน 2 แก้ว
นมจืด 2 กล่อง
ถังหมัก
วิธีทำ
1.ตอกไข่ พร้อมบดเปลือกให้ละเอียดลงในถังหมัก
2.เติมน้ำตาล หรือกากน้ำตาล นมเปรี้ยว แป้งข้าวหมาก น้ำมะพร้าวอ่อน และนมจืด ลงไปทั้งหมด คนทุกอย่างให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว
3.ปิดฝาถังให้สนิท หมักทิ้งไว้ 14 วัน ตั้งไว้ในพื้นที่ไม่มีแดดส่องถึง และอากาศถ่ายเทได้สะดวก คอยหมั่นคนปุ๋ยทุกวัน เพื่อไม่ให้มีส่วนไหลนอนก้นนานเกินไป
4.เมื่อครบวันตามกำหนด พร้อมนำไปใช้งานได้
📌📌📌การใช้งาน ผสมปุ๋ย 20-30 cc. กับน้ำสะอาด 20 ลิตร ฉีดพ่นต้นพืชให้เปียกชุ่มในช่วงเย็น หรือรดลงดินรอบทรงพุ่มเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
2. สูตรปุ๋ยเร่งดอกน้ำหมักฟอสฟอรัส
สูตรนี้เป็นผลิตผลของ ศูนย์เรียนรู้การดำรงชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง บ้านหนองข่อย จังหวัดนครสวรรค์ มีฟอสฟอรัสสูง ช่วยในการบำรุงดอกของต้นพืชให้ได้ผลดีอย่างแน่นอน วิธีทำไม่ยากด้วย
วัตถุดิบ
ขี้เถ้าจากต้นงาเผา 1 กิโลกรัม
น้ำสะอาด 100 ลิตร
ถังหมัก
วิธีทำ
1.เตรียมถังผสม นำขี้เถ้าผสมลงในน้ำสะอาด คนให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 20 วัน
2.เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้ใช้ปั๊มลมเติมอากาศให้กับน้ำหมัก จะช่วยกระตุ้นให้กรดฟอสฟอรัสละลายออกมาเป็นจำนวนมาก แล้วนำไปใช้งานได้
📌📌📌 การใช้งาน ผสมน้ำหมักฟอสฟอรัส 0.7 ลิตร กับน้ำสะอาด 20 ลิตร ใช้ฉีดพ่นลงบนต้นพืชอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยสร้างตาดอก เพิ่มผลผลิต เพิ่มค่าความหวานในผลไม้ และช่วยให้ผลไม้มีผลใหญ่ขึ้นได้
3. สูตรปุ๋ยเร่งดอกน้ำสกัดชีวภาพสูตร 2 บำรุงดอกและผล
สูตรนี้เป็นผลิตผลของ ศูนย์ฝึกอบรมศูนย์เรียนรู้ชุมชน ตำบลท่างาม จังหวัดพิษณุโลก เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เลือกใช้วัตถุดิบในพื้นที่ เช่น เศษพืชผัก ผลไม้ สมุนไพร เป็นต้น นำมาหมักเป็นปุ๋ย ที่มีประโยชน์สูง และประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายด้วย
วัตถุดิบ
ผลไม้สุก 3 กิโลกรัม
กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
ถังหมัก
วิธีทำ
1.นำผลไม้สุก มาหั่น และบด ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ควรเลือกผลไม้ที่มีความฉ่ำน้ำ และมีเนื้อนิ่ม เช่น มะละกอ กล้วย เป็นต้น
2.คลุกผลไม้กับกากน้ำตาลในถังหมัก ปิดฝาให้มิดชิด หมักทิ้งไว้ 7-15 วัน คอยหมั่นคนส่วนผสมเป็นประจำทุกวัน
3.ทุกครั้งที่เปิดถังให้สังเกตว่า ปุ๋ยมีกลิ่นเหม็นเน่าหรือไม่ ถ้ามีให้เร่งเติมกากน้ำตาลเพิ่มเข้าไป อีกประมาณ 3-7 วัน กลิ่นจะหายไปเอง เมื่อครบกำหนด สามารถนำไปใช้งานได้
📌📌📌 การใช้งาน ผสมปุ๋ยกับน้ำสะอาด ในอัตราส่วนปุ๋ย 15-20 cc. ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ในระยะออกดอก และติดผล หรือผสมปุ๋ย 30-50 cc. ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วรดน้ำต้นพืช ด้วยบัวรดน้ำทุกสัปดาห์
📣📣📣 ปุ๋ยเร่งดอกที่นิยมในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง?
สำหรับเกษตรกรหลาย ๆ คน ที่อาจจะไม่มีเวลาทำปุ๋ยเร่งดอกเอง สามารถหาซื้อตามท้องตลาดทั่วไปได้ โดยปุ๋ยเร่งดอกที่นิยม มีดังนี้
📍ปุ๋ยเคมี
สำหรับปุ๋ยเคมี ที่มีคุณสมบัติเป็นปุ๋ยเร่งดอก แบ่งแยกย่อยตามการใช้งานได้ 2 แบบ คือ แบบที่ให้ปุ๋ยทางดิน และให้ปุ๋ยทางใบ ความแตกต่างอยู่ที่การละลายน้ำเป็นหลัก ปุ๋ยที่ต้องฉีดพ่นทางใบ จะละลายน้ำได้ดีกว่ามาก สูตรปุ๋ยที่ได้รับความนิยม คือ 8-24-24, 15-15-20, 0-20-20, 11-45-11, 15-30-15, 6-45-18 เป็นต้น
📌 ข้อดี คือ ช่วยเร่งดอก เร่งผลได้ดี
ข้อเสีย คือ มีความอันตรายต่อผู้ใช้ ถ้าไม่ป้องกันให้ดี และอาจจะส่งผลให้ดินเสียได้ในระยะยาว
📍 ปุ๋ยอินทรีย์
สามารถแบ่งประเภทย่อย ๆ ได้หลากหลาย และแต่ละประเภท สามารถนำมาใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยเร่งดอกได้ แต่ต้องพิจารณาปริมาณฟอสฟอรัสที่อยู่ในปุ๋ยนั้นด้วย เช่น
1.ปุ๋ยคอก ต้องดูว่า มูลสัตว์ ที่นำมาผลิตปุ๋ยเป็นสัตว์กลุ่มใด ให้ไนโตรเจนสูง หรือให้ฟอสฟอรัสสูงไหม ปุ๋ยคอกยอดนิยม คือ ปุ๋ยคอกมูลค้างคาว ปุ๋ยคอกมูลไก่ไข่ เป็นต้น
2.ปุ๋ยน้ำหมัก เป็นปุ๋ยเร่งดอกที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเช่นกัน เพราะใช้งานง่าย และมีค่าฟอสฟอรัสสูง นอกจากนี้ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ยังได้อินทรียวัตถุที่ช่วยปรับสภาพดิบไปในตัวด้วย
📌 ข้อดี คือ ปลอดภัยจากสารเคมี และช่วยบำรุงดินและธรรมชาติได้
ข้อเสีย คือ มีกลิ่นแรง และอาจจะเร่งดอก เร่งผลได้ช้ากว่าปุ๋ยเคมี
📔 วิธีเลือกปุ๋ยเร่งดอก
ผู้ใช้งานควรเรียนรู้ชนิดของปุ๋ยเร่งดอก และส่วนผสมของปุ๋ยว่ามีอะไรบ้าง และปุ๋ยเร่งดอกแบบไหนที่เหมาะสำหรับการใช้งาน เพื่อให้ได้ปุ๋ยเร่งดอกที่เหมาะสมกับพืชของเรานั่นเอง
1.เลือกตามประเภทปุ๋ยเร่งดอก แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ คือ ปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมี
2.เลือกปุ๋ยเร่งดอกแบบแห้ง หรือแบบน้ำ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน
3.เลือกปุ๋ยเร่งดอกตามสูตรปุ๋ย โดยดูจากค่าส่วนผสม N P K คือ การดูค่าของ P (ฟอสฟอรัส) โดยในกรณีที่ค่า N P K เรียงกัน โดยสามารถเลือกซื้อโดยหาปุ๋ยที่ค่า P มากกว่า N และ K ยิ่งค่า P สูง จะเป็นการช่วยเร่งให้ต้นไม้ออกดอกนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้าง สูตรวิธีทำปุ๋ยเร่งดอก ที่เราสามารถทำเองได้ไม่ยาก ลองนำไปทำกันดู รับรองว่า เป็นตัวช่วยดี ๆ ในการเร่งดอก ให้ออกมาสวยงาม อย่างแน่นอน บทความหน้า จะมีการเกษตรอะไรดี ๆ มาฝากกันอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะ 😉