14/06/2022
"กัญชา" โอสถแห่งมหาเทพ
กัญชาปกรณัม(G***a Mythology)
กัญชา(G***a) ราชาแห่งพืชสมุนไพรที่มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อศาสนา และเทพเจ้ามาอย่างยาวนานนับพันปี กัญชาถูกยกย่องให้เป็นราชาแห่งพืชสมุนไพร มีความสำคัญในอารยธรรมต่างๆมาช้านาน ทั่วโลกต่างนิยมชมชอบสมุนไพรชนิดนี้ บ้างใช้ติดต่อกับพระเจ้า บ้างใช้เป็นสื่อเพื่อเข้าถึงพระเจ้า บ้าง เชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานมาเพื่อให้ความสุขแก่มนุษย์
กัญชาคือ “ลมหายใจของเทพเจ้า” สำหรับชาวอียิปต์ เป็นพืชที่ใช้เพื่อการ “ต่อต้านปีศาจทั้งปวง” สำหรับชาวอัสซีเรียนแห่งเมโสโปเตเมีย และผู้นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ในเปอร์เซียยุคโบราณ ส่วนชาวไซเธียน (Scythians) แห่งยุโรปเหนือ เชื่อว่ากัญชาเป็นพืชวิเศษ เมื่อเสพแล้วทำให้ผู้เสพสามารถ “เหินอยู่ในหมอกควัน”
ตำราสมุนไพรโบราณที่ชื่อ ‘มักข์ซาน’ ที่เกิดจากการผสมผสานความรู้ด้านสมุนไพรของอาหรับและกรีกไว้ด้วยกัน กล่าวถึงกัญชาไว้อย่างน่าประทับใจ : “คาเนห์บอส (กัญชา) คือผู้ประทานความปิติสุข, ผู้โบยบินสู่ฟากฟ้า, ผู้ชี้ทางสวรรค์, เป็นสวรรค์ของคนยาก แลผู้ปลอบประโลมยามทุกข์ระทม”
ในคติความเชื่อของศาสนาฮินดู เรียกสมุนไพรชนิดนี้ว่า"ภังค์ bhang"(หรือ bhanga) เชื่อว่า เป็นสมุนไพรที่พระศิวะมหาเทพทรงประทานแด่มวลมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในศาสนาอินเดีย ในสมัยโบราณ ถูกใช้เป็นเครื่องสักการะพระศิวะ ด้วยฤทธิ์ในการกระตุ้นความอยากและมีผลต่อระบบกระบวนการคิด ภังค์จะถูกดื่มโดยผู้บูชาพระศิวะในการสักการะ ในพิธีบูชายัญและพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ภังค์ยังถูกใช้การการฝึกโยคะสมาธิต่าง เช่นถูกใช้ในการกระทำภักดิโยคะเพื่อนอบน้อมสู่พระเจ้าให้เป็นหนึ่ง โดยเหล่าอโฆรี นักบวชผู้บูชาพระศิวะ
ตามตำนานการกำเนิดกัญชาในคติฮินดูกล่าวว่า ต้นกัญชาเกิดจากการกวนเกษียรสมุทธ จนได้น้ำอมฤต แต่การกวนเกษียรสมุทธครั้งนั้นก็เป็นผลให้พญานาคราชคายพิษออกมาเป็นจำนวนมากเป็นภัยอย่างยิ่งแก่โลกและสรรพสัตว์ พระศิวะทรงกลืนพิษนั้นลงท้อง ยังให้พระองค์ต้องพิษนาคจนแสบร้อนพระศอ(คอ) เพื่อเยียวยาพระศอ ศิวะเทพทรงหยิบมังสา(เนื้อ)จากพระวรกายแล้วนิรมิตสมุนไพรขึ้นมา ด้วยเหตุนี้กัญชาจึงได้สมญาอีกประการว่า “อังกาจ” แปลว่า “เกิดจากกาย เมื่อพระศิวะเจ้าได้ลิ้มลองผลปรากฎว่าทรงทุเลาจากพิษนาคและได้สร้างความปิติแก่พระศิวะเจ้าเป็นอย่างมาก พระองค์จึงนำภังค์ จากภูเขาหิมาลัยเพื่อสร้างความสุขให้กับมนุษย์ ภังค์ถูกตั้งชื่อว่า “หญ้าศักดิ์สิทธิ์” หรือ “อาหารของพระเจ้า”
ด้วยเหตุนี้ ศาสนาฮินดูตั้งแต่โบราณจึงใช้กัญชาบูชาพระศิวะ กัญชาที่พระศิวะสูบเรียกว่า "โอสถมวน" แปลว่าของมึนเมาแห่งจักรวาล มีพิธีที่เรียกว่า"ศิวะราตรี" จัดขึ้นในเนปาล โดยจะมีพวกนักบวชและนักแสวงบุญมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายเพื่อสูบกัญชากันไม่มีหยุด 1วัน1คืนเต็มๆ เพื่อถวายแก่พระศิวะ
ไม่เพียงเท่านั้น ชาวอินเดียยังถือว่ากัญชาเป็นทั้งโอสถพระศิวะ และเป็นพระศิวะในตัวมันเอง ด้วยว่ามันเกิดจากเนื้อหรือมังสาของพระองค์ พวกเขาจึงใช้กัญชาบูชาเทพองค์นี้ และเทพอื่นๆในวาระสำคัญต่างๆ
คัมภีร์พระเวท บัญญัติให้กัญชาเป็นหนึ่งในห้าพืชศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้เป็นโอสถและในพิธีบวงสรวง ทั้งเป็นราชาแห่งสมุนไพรทั้งปวง คัมภีร์พระเวทที่รจนาขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล เรียกเครื่องดื่มที่ทำจากการกัญชาว่า ‘โซมา’ (Soma) หรือ โสม (ที่แปลว่าพระจันทร์) มีไว้ทำเครื่องดื่มของเทพเจ้า เมื่อดื่มแล้วจิตวิญญาณจะเป็นอมตะ ขณะน้ำอมฤตดื่มแล้วร่างกายจะเป็นกายเป็นอมตะ
นอกจากในศาสนาความเชื่อของชาวฮินดูแล้วยังมี ชาวราสตาฟาเรียน (Rastafarian) เป็นลัทธิที่นับถือกัญชาว่าเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ เป็นสื่อกลางเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณ ศาสนานี้เป็นศาสนาที่มีรากฐานมาจากจาไมก้า ศาสนานี้ศรัทธาอย่างแรงกล้าในกัญชา แรกๆชาวจาไมก้าเค้าใช้กัญชาเป็นยาสมุนไพร เอามาต้มๆเป็นชา น่าจะคล้ายๆกับวิธีการกินชาจีนหรือยาหม้อบ้านเรา แต่ก็มีแบบสูบด้วยเหมือนกัน ชาวราสตาฟาเรียนยังให้ชื่อกัญชาว่าเป็น "Wisdom W**d" หญ้าแห่งปัญญา บอกว่าเป็นพืชที่จะช่วยให้ฉลาดขึ้น โดยช่วยให้เข้าถึงจิตวิญญาณภายในตัวเองมากกว่าเดิม
และสำหรับชาวราสตาฟาเรียนแล้วยกให้กัญชาเป็นส่วนช่วยให้เข้าถึงจิตวิญญาณของตัวเองได้ง่ายขึ้น ซึ่งการเข้าถึงจิตวิญญาณของตนเองถือว่าเป็นความฉลาดตามความหมายของราสตาฟาเรียน และต้องพัฒนาวิญญาณตนเองไปตลอดชีวิต เพราะเขาถือว่ากายภายนอกไม่ยั่งยืน ไม่ใ่ช่สิ่งแท้จริง วิญญาณเป็นตัวตนแท้จริงและเป็นสิ่งเดียวที่ยังอยู่หลังจากตาย
นอกจากนี้
ปัจจุบันยังมีการเอากัญชาเข้ามาผสมผสานกับการทำโยคะด้วย เรียกว่า "โยคะกัญชา" หรือ "G***a Yoga” มีการสูบแบบจริงๆจังๆในห้องโยคะกันเลยทีเดียว โดยเชื่อกันว่ามันทำให้ผ่อนคลายได้ลึกขึ้น โดยครูสอนโยคะเปรียบกัญชาว่ามันก็เหมือนกับเกลือบนอาหาร คือช่วยเพิ่มรสชาดให้การทำโยคะนุ่มนวลกว่าเดิม
ดังที่กล่าวมาแล้ว, กัญชาเป็นราชาแห่งสมุนไพรที่น่าทึ่งที่สุดในบรรดาสมุนไพรทั้งหลาย มีคุณูปการสำคัญอยู่สี่ด้าน กล่าวคือ เพื่อใช้ในความเชื่อทางศาสนา (ในพิธีกรรม, การทำสมาธิ, บวงสรวงเทพเจ้าฯลฯ), ใช้ในอุตสาหกรรม (ทำกระดาษ, เสื้อผ้า,เชือก, เส้นใย,อาหาร ฯลฯ),ใช้เป็นยาสมุนไพรและยาสมัยใหม่(ที่รักษาสารพัดโรค จากการวิจัยพบว่ามีตัวยาอยู่ในกัญชาไม่น้อยกว่า 200 ชนิด), ใช้เพื่อความเริงรมย์ทางสังคม ที่ทุกเผ่าพันธุ์สืบทอดกันมาในทุกทวีป, ทุกชาติทุกภาษา ทุกหนแห่งบนพื้นพิภพ
สมุนไพรของพระเจ้าเคยถูกกล่าวหาว่าเป็น “สมุนไพรของซาตาน” โดยคริสตจักร แต่ท้ายที่สุดกระดาษจากพืชชนิดนี้ถูกนำมาตีพิมพ์พระคัมภีร์ไบเบิ้ล กัญชาเคยพุ่งสู่ความรุ่งโรจน์ถึงขีดสุดในยุคล่าอาณานิคม แต่ก็ตกต่ำลงด้วยอคติของมนุษย์ กระทั่งพืชพันธุ์แห่งเสรีกลายมาเป็นพืชแห่งอาชญากรรม
ขอขอบคุณ เครดิต : เพจความเชื่อ🙏