เรื่องของกรอฟฟฟฟ Kolf'story

  • Home
  • เรื่องของกรอฟฟฟฟ Kolf'story

เรื่องของกรอฟฟฟฟ Kolf'story ก็คือเรื่องของกรอฟฟฟฟฟ อะครัฟๆ

วันที่ 27 สิงหาคม 2022 เราจัดงานสงกรานต์เองที่บาร์เซโลน่า เพราะว่าหมั่นไส้สถานทูตไทยในสเปนและคนไทยหัวอนุรักษ์ที่อยู่ที่น...
28/08/2022

วันที่ 27 สิงหาคม 2022 เราจัดงานสงกรานต์เองที่บาร์เซโลน่า เพราะว่าหมั่นไส้สถานทูตไทยในสเปนและคนไทยหัวอนุรักษ์ที่อยู่ที่นี่

ตื่นตอนเช้าวันนั้นกงลี่แทคในเฟสบุ๊คมาเรื่องพยายามกล่อมตากุ๊กให้ยินยอมให้นางตัดผมสั้นเหมือนตอนที่ไปรับเราหน้าเรือนจำ เราเลยเพิ่งนึกได้ว่าเราจำไม่ได้แล้วว่าวันที่ 27 สิงหาคมเป็นวันที่เราออกจากคุก ก็มัน 7 ปีแล้ว อย่างนาน นานมากเลย คิดว่าเราหยุดจำมันในช่วงปีที่ 3 หลังออกจากคุก เราค้นๆไปดูโพสต์เก่าๆของตัวเองแล้วก็พบความรู้สึกแตกต่างจากที่ผ่านมา

เราเคยโศกาขนาดนั้น

แต่สองปีก่อนเราระเริงอยู่กับชายรูปงาม

และปีนี้เราจัดงานสงกรานต์

เราออกร่ายรำหลังจบงานเพื่อเฉลิมฉลองอิสระและสาปแช่งความจังไรหมาของพวกระยำด้วยไฟเผา เราไม่ได้โดดเดี่ยว อยู่ที่นี่เรามีครอบครัวและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ใหม่ๆ

เราเล่นน้ำสงกรานต์ในรอบหลายสิบปี เพราะว่าปกติเราเกลียดการที่กางเกงในจะเปียกเพราะเล่นสงกรานต์ แต่คราวนี้เราไม่ได้ใส่เกงในไง เลยไม่ต้องกลัวมันเปียก 🤣🤣

ไม่ต้องห่วงเรากันแล้วนะ เราสบายดี และเราจะผ่านทุกๆอุปสรรคไปได้แน่ๆ

รัก

28/8/2022

นี่คือรอยยิ้มจากลูกรักของพระเจ้า 😉ความสัมพันธ์ของฉันกับพระเจ้านั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่ฉันมั่นใจอย่างนึงว่าเขาเองก็กำลังเร...
29/05/2022

นี่คือรอยยิ้มจากลูกรักของพระเจ้า 😉
ความสัมพันธ์ของฉันกับพระเจ้านั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่ฉันมั่นใจอย่างนึงว่าเขาเองก็กำลังเรียนรู้และฉันเองก็เช่นกัน หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเกิดจากการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันทั้งสิ้น บางครั้งเราทำนิสัยไม่ดีใส่กันแต่ว่าสุดท้ายเราก็หาความลงตัวของเรื่องนี้ได้
ทำไมพระเจ้าถึงรักฉันหนะหรอ ? เพราะฉันกล้าพอที่จะตะโกนใส่หน้าเขาได้เวลาที่เขาทำนิสัยไม่ดีใส่คนอื่นยังไงเล่า !!! หรือว่า เพราะฉันรู้ว่าเขารักฉันฉันจึงได้ตะโกนใส่เขาได้ ???

คำถามพวกนี้ยากที่จะตอบจริงๆ แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ตอบได้ทุกสิ่งหรอก บางทีก็แอบขี้เกียจซะด้วยซ้ำ

แต่อะไรที่ทำให้ฉันกล้าระห่ำกับชีวิตขนาดนี้หนะหรอ ?? เพราะฉันรู้ไงว่าฉันมีความรักที่ยิ่งใหญ่คอยดูแลอยู่

อย่าเพิ่งอิจฉากันเชียวละ 🤣

28/05/2022
23/05/2022

วิเวียน ไมเออร์ : พี่เลี้ยงเด็กผู้ลึกลับ เจ้าของภาพฟิล์มกว่า 150,000 ชิ้นที่ถูกค้นพบในวันที่ดับสูญ
ปัจจุบันคงจะเป็นเรื่องสามัญธรรมดาหากพบเห็นหญิงสาวสะพายกล้องถ่ายรูปเดินไปตามถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านพร้อมฉากหลังเป็นตึกรามบ้านช่องรายล้อมอยู่โดยรอบ แต่หากลองมองย้อนกลับไปในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 สิ่งนี้ดูจะเป็นสิ่งแปลกตาต่อผู้พบเห็นไม่น้อย และคงจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากขึ้นไปอีกหากได้รู้ว่าหญิงสาวผู้หลงใหลในการถ่ายภาพผู้นี้เป็นเพียงพี่เลี้ยงเด็กเท่านั้น !
เวลาล่วงเลยมามากกว่าครึ่งศตวรรษ ภาพถ่ายและม้วนฟิล์มที่พี่เลี้ยงเด็กผู้นี้ได้เก็บซ่อนเอาไว้จำนวนมหาศาลกว่า 150,000 ภาพได้ถูกค้นพบโดย ‘จอห์น มาลูฟ’ (John Maloof) และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้คนทั่วทุกมุมโลกได้รู้จักกับชื่อ ‘Vivian Maier’ ในฐานะช่างภาพผู้ลึกลับ
‘วิเวียน ไมเออร์’ (Vivian Maier) หรือชื่อเต็ม ‘วิเวียน โดโรธี ไมเออร์’ (Vivian Dorothy Maier) ช่างภาพแนวสตรีทชาวอเมริกัน เธอเกิดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 1926 ในเมืองบรอนซ์ นิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา และได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบในวัย 83 ปี เมื่อวันที่ 21 เมษายน ปี 2009 หลังจากผู้คนได้รู้จักชื่อของเธอไปเพียงไม่นาน ช่วงวัยเด็กเธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับแม่ชาวฝรั่งเศส ที่หมู่บ้านอันห่างไกลในชนบทของฝรั่งเศสแถบเทือกเขาแอลป์ มีพลเมืองเพียง 250 คน เมืองแซงต์บอนเนต์อองชอมป์โซร สถานที่ที่เติบโตและหล่อหลอมตัวตนในวัยเยาว์ของวิเวียน ไมเออร์
ปี 1951 วิเวียน ไมเออร์ กลับมายังสหรัฐอเมริกา และได้เริ่มต้นบทบาทการเป็นพี่เลี้ยงเด็กนับแต่นั้นมา ขณะเดียวกันการถ่ายภาพเป็นสิ่งที่เธอทำอย่างเป็นกิจวัตรตลอด 5 ทศวรรษก่อนวาระสุดท้ายของชีวิต
ในปี 2013 ภาพยนตร์สารคดี ‘Finding Vivian Maier’ สร้างโดย จอห์น มาลูฟ และ ชาร์ลี ซิสเกล (Charlie Siskel) ได้ออกฉายสู่สายตาสาธารณชน สารคดีเพื่อไขปริศนา ตามหาเบาะแสและประวัติชีวิตของหญิงสาวผู้ที่ทำให้โลกของภาพถ่ายสตรีทเปลี่ยนไปตลอดกาล
#จุดกำเนิดช่างภาพผู้เลื่องชื่อ
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในฤดูหนาววันหนึ่งของปี 2007 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของชิคาโก จอห์น มาลูฟ เดินทางไปบริษัทประมูลสินค้าที่อยู่ละแวกบ้าน จากความตั้งใจว่าจะประมูลรูปภาพและม้วนฟิล์มเก่าที่มีภาพบรรยากาศของชิคาโกเพื่อนำมาใช้ในหนังสือประวัติศาสตร์ที่ตัวเขากำลังทำอยู่ จนในที่สุดเขาประมูลได้ลังภาพถ่ายและฟิล์มเนกาทีฟมาจำนวนหนึ่งชุด ในราคา 380 เหรียญ ในคืนวันเดียวกัน จอห์นได้หยิบฟิล์มเนกาทีฟที่เขาได้รับขึ้นมาส่องดูกับแสงไฟ ไม่พบสิ่งใดที่ดูจะสามารถนำมาใช้กับงานของเขาได้ จึงพับลังเก็บใส่เข้าตู้ เวลาผ่านไปนานถึง 2 ปี จอห์นได้นำภาพถ่ายออกมาอีกครั้ง พร้อมสแกนให้กลายเป็นไฟล์ภาพดิจิทัลเพื่อให้ได้เห็นภาพถ่ายอย่างชัดเจนเต็มตา ทำให้เขาค้นพบว่ารูปภาพเหล่านี้น่าสนใจและพิเศษมาก
ภาพของเด็กหญิง เด็กชาย หญิงสาว ชายหนุ่ม จนไปถึงวัยชราที่ใกล้ร่วงโรยบนท้องถนนในเมืองชิคาโกช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ในอิริยาบทต่าง ๆ สามารถดึงดูดสายตาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น เหมือนดังภาพที่ถูกมองลอดผ่านเลนส์โดยฝีมือช่างภาพมืออาชีพก็ไม่ปาน ภาพถ่ายที่นอกจากความสวยงามและองค์ประกอบที่น่าสนใจแล้ว ยังทำหน้าที่เสมือนเครื่องบันทึกทางประวัติศาสตร์และความทรงจำที่พาย้อนให้เราได้กลับไปเห็นถึงสภาพสังคม เศรษฐกิจ บ้านเมือง และวิถีชีวิตของผู้คนแห่งเมืองชิคาโกในยุคสมัยนั้นได้อย่างครบถ้วน
จอห์นตัดสินใจโพสต์ภาพถ่ายลงบนโลกออนไลน์อย่าง flickr เพื่อต้องการให้คนได้เห็นในสิ่งที่เขาเห็น ในวันถัดมาโพสต์ของเขาได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น มีผู้คนให้ความสนใจและเข้ามารับชมเป็นจำนวนมาก นั่นเองเป็นจุดประกายที่ทำให้เขาเริ่มออกตามหาภาพถ่ายที่เหลือและตัวตนของ วิเวียน ไมเออร์ ผู้เป็นเจ้าของผลงานชิ้นเอก
จอห์นรวบรวมภาพของวิเวียนได้จำนวนมหาศาลจากการขอซื้อต่อจากผู้อื่นที่เคยซื้อไปก่อนหน้า และนั่นทำให้เขาสามารถรวบรวมผลงานทั้งหมดของวิเวียน ไมเออร์ได้มากถึง 150,000 ภาพ
น่าแปลกที่ผลงานภาพถ่ายที่เฉียบคมเช่นนี้ไม่เคยถูกเผยแพร่สู่สายตาสาธารณชนมาก่อน แม้แต่ชื่อของวิเวียน ไมเออร์ก็ไม่ปรากฏข้อมูลใด ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต จอห์นยิ่งเกิดความสงสัยใคร่รู้ถึงตัวตนของเธอผู้นี้มากขึ้นไปอีก ใครกันนะที่เป็นเจ้าของรูปภาพเหล่านี้ เขาจะต้องหาเธอให้พบ
จนในที่สุดเขาได้พบข้อมูลของเธอตามที่ใจหวัง แต่สิ่งที่ได้พบกลับกลายเป็นประกาศไว้อาลัยให้แก่เธอที่ได้เสียชีวิตลงไปก่อนหน้าเพียงแค่ 2 - 3 วัน
จอห์น มาลูฟพบกับคลังสมบัติจำนวนมหาศาลของวิเวียน จากการติดต่อกับครอบครัวยูซิสกินที่เธอเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้เป็นเวลากว่า 17 ปี กล่องเก็บของจำนวนหลายสิบใบถูกตั้งทับซ้อนกันเป็นกองพะเนินอัดแน่นอยู่เต็มพื้นที่ห้องเก็บของ หญิงสาวผู้นี้เก็บของเยอะแยะมากมายเหล่านี้ไว้ทำไมกัน
วิเวียนเป็นนักสะสมของตัวยง เธอเลือกที่จะเก็บทุกสิ่ง จดหมาย ใบเสร็จ ตั๋วรถเมล์ แต่สิ่งที่มีจำนวนมากที่สุดดูจะเป็นกลุ่มกองกระดาษ บทความจากหนังสือพิมพ์ที่ถูกตัดและเรียบเรียงไว้ในแฟ้มบรรจุซองพลาสติกอย่างเป็นระเบียบ หัวข้อข่าวที่เธอโปรดปรานเต็มไปด้วยเรื่องราวความเป็นมนุษย์ที่เผยสันดานและด้านที่บิดเบี้ยว มืดมน รุนแรง และน่าเศร้า
วิเวียนเก็บทุกสิ่งเหมือนดังว่าวันหนึ่งจะถูกค้นพบ สิ่งของที่เธอบรรจุเก็บไว้ในกล่องและกระเป๋านับสิบได้กลายเป็นจิ๊กซอว์ที่รอให้เข้าไปเรียบเรียง ดังคำกล่าวของตัวเธอเองที่ว่า “ฉันพกชีวิตเอาไว้ติดตัว”
#ตัวตนที่ลึกลับ
“ย้อนแย้ง โดดเด่น ลึกลับ ประหลาด เก็บตัว” นี่คือคำตอบของผู้คนที่เคยอยู่ในช่วงชีวิตหนึ่งของวิเวียน ไมเออร์
เธอทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับหลายครอบครัวในชิคาโก เรื่องที่น่าแปลกคือ ไม่มีครอบครัวไหนที่เรียกชื่อของเธอในชื่อเดียวกัน วิฟ มิสไมเออร์ มิสมาเทอร์ส และวิเวียน
วิเวียนมีข้อปฏิบัติสำคัญกับทุกครอบครัวที่เธอเป็นพี่เลี้ยง คือเธอต้องการห้องพักที่มีความเป็นส่วนตัว มีห้องน้ำอยู่ภายใน (ภายหลังพบว่าเธอใช้เป็นห้องล้างฟิล์ม) การเข้าห้องนอนของเธอโดยพลการเป็นสิ่งต้องห้าม เปรียบเสมือนดินแดนเขตหวงห้ามที่ใครก็ล่วงล้ำเข้าไปไม่ได้
เธอมักปฏิเสธการเปิดเผยชื่อและตัวตนกับผู้ที่พบเจอ หลักฐานในใบเสร็จสินค้าที่ถูกค้นพบนับร้อย ต่างระบุด้วยนามแฝงที่หลากหลาย V. Smit B. Maier D. Maier V. Meyer ล้วนแล้วแต่ไม่มีชื่อจริงปรากฏอยู่ ชื่อและนามสกุลถูกเปลี่ยนและสะกดอย่างไม่ซ้ำกัน ไม่มีใครรู้ว่าเธอทำสิ่งเหล่านี้ไปเพื่ออะไร
วิเวียน ไมเออร์ เป็นคนเก็บตัว เธอไม่ชอบพูดคุยเรื่องของตัวเอง ภูมิหลังและเรื่องราวชีวิตในอดีตของเธอเป็นเหมือนความลับที่ไม่สามารถให้ใครได้ล่วงรู้ แต่ละครอบครัวที่เธอได้ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้ต่างเข้าใจว่าเธอเป็นคนฝรั่งเศสขนานแท้ เนื่องจากสำเนียงการพูดคุยที่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ใครเล่าจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นคนอเมริกันแต่กำเนิด
Maier in Thailand
ปี 1959 วิเวียนตัดสินใจออกเดินทางเพื่อผจญภัยในโลกกว้างด้วยตัวของเธอเอง มีภาพถ่ายที่เป็นหลักฐานปรากฏให้เห็นถึงแต่ละสถานที่ที่เธอไป อินเดีย แคนาดา เยเมน ปูเอร์ร์โต ริโก้ เวียดนาม อียิปต์ ยุโรป และหนึ่งในนั้นคือ ‘ประเทศไทย’
3 ภาพถ่ายที่เป็นเครื่องยืนยันถึงการมาเยือนประเทศไทยของหญิงสาวผู้นี้ ถูกปล่อยให้รับชมภายในเว็บไซต์ ‘Vivian Maier’ ที่เป็นแหล่งแสดงผลงานบางส่วนของเธอ
ภาพแรกปรากฏวันที่ 6 มิถุนายนในปี 1959 ภาพวัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซากวัตถุโบราณ อาคารอิฐปูนที่ไม่สมประกอบดังตัวแทนของประวัติศาสตร์ที่ล่มสลายอยู่เบื้องหน้าตัดกับฉากหลังเจดีย์ใหญ่สีขาวสร้างใหม่เรียงทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา
ต่อมาในวันเดียวกัน ภาพ Portrait ของเด็กน้อยผู้หญิงชาวไทยสองคน ใบหน้าถูกประเต็มไปด้วยแป้งขาว ยืนอยู่บริเวณหน้าลานวัดที่สันนิษฐานว่าเป็นวัดเดียวกันกับในภาพแรก
ภาพสุดท้ายเป็นหนึ่งในรูปภาพ Self-Portrait ของวิเวียน ไมเออร์ ที่คาดว่าถูกถ่ายสักแห่งในเมืองกรุงเทพฯ ภาพสะท้อนตัวเธอบนกระจกบานใหญ่ที่ติดอยู่หน้าประตูของอาคาร ภาษาที่คุ้นเคยปรากฏบนกระจกว่า ‘รับซ่อมนาฬิกาทุกชนิด’ กับฉากหลังที่มีกลุ่มเด็กใส่ชุดนักเรียนไทยเป็นองค์ประกอบ
#ผู้บันทึกเรื่องราวและความเป็นไปของสังคมแห่งยุคสมัย
“เธอมีดวงตาที่หยั่งถึงความจริงแท้ เข้าใจลึกซึ้งถึงธรรมชาติของมนุษย์”
กล้องเปรียบเสมือนอวัยวะอีกส่วนหนึ่งของตัวเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนหรือทำอะไร กล้อง Rolliflex ขนาดสี่เหลี่ยมทรงกระบอกจะห้อยอยู่ที่คอวิเวียนเสมอ เธอถ่ายทุกอย่างแม้กระทั่งสิ่งที่คนอื่นมองว่าไม่จำเป็น ผ่านมุมมองและวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไป
ผลงานของวิเวียน ไมเออร์มีฉากหลังอยู่ที่เมืองชิคาโกและนิวยอร์กเป็นส่วนใหญ่ นอกจากภาพถ่ายแล้ว เธอยังหลงใหลการบันทึกเรื่องราวของโลกรอบตัวผ่านการทำภาพยนตร์โฮมเมด การบันทึกเสียงของผู้คนที่สนทนา ถกเถียงถึงประเด็นรอบตัว สังคม การเมือง และสิ่งรอบตัว การค้นพบงานของวิเวียนจึงไม่ได้เพียงเกิดประโยชน์ในแง่ของการศึกษาวิธีทางศิลปะการถ่ายภาพ แต่ยังมีเรื่องราวที่สามารถนำมาร้อยเรียงและเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์อันเป็นเบื้องหลังความเจริญรุ่งเรืองที่สำคัญแก่ชาวอเมริกัน
“ฉันมองว่าไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ตลอดไป เราต้องสร้างพื้นที่ว่างให้กับผู้อื่น มันเปรียบเหมือนกับล้อ หากคุณไปได้ คุณก็ต้องไปให้สุดทาง แล้วจะมีใครบางคนมีโอกาสไปถึงจุดสิ้นสุดนั้นและที่อื่น ๆ เช่นกัน” - วิเวียน ไมเออร์
ปัจจุบัน วิเวียน ไมเออร์ ได้ล่วงลับไปเป็นเวลากว่า 13 ปี ภาพถ่ายของเธอได้ถูกจัดเก็บไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้คนรุ่นต่อไปในอนาคตได้มีโอกาสชื่นชมผลงานอันล้ำค่านี้ งานของเธอได้กลายเป็นอีกหนึ่งต้นแบบให้กับคนที่มีความฝันและหลงรักในการถ่ายภาพ
แม้ว่าทุกวันนี้เธอจะเป็นที่ยอมรับและรู้จักในฐานะ Street Photographer ผู้โด่งดัง แต่ถึงอย่างไรเจตจำนงของการถ่ายภาพจำนวนนับกว่าแสนชิ้นก็ยังคงเป็นปริศนาและถูกตั้งคำถามต่อไป แม้เธอจะเป็นที่รู้จักในวันที่ดับสูญไปแล้ว นั่นดูไม่ได้เป็นเรื่องสลักสำคัญแต่อย่างใดกับตัวตนของวิเวียน ไมเออร์ เท่ากับการที่เธอได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการภาพถ่าย และจะยังคงถูกระลึกถึงในฐานะบุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจที่เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรัก แม้จะไม่เคยมีผู้ใดได้รับรู้ก็ตาม
เรื่อง : ดวงนฤมล วงศ์ใหญ่ (The People Junior)
ภาพ : http://www.vivianmaier.com
ที่มา :
Documentary ‘Finding Vivian Maier’ (2013)
http://www.vivianmaier.com/about-vivian-maier/
http://www.vivianmaier.com/about-vivian-maier/history/
http://www.vivianmaier.com/film-finding-vivian-maier/
http://padraigrooney.com/blog/?p=1228

20/01/2022

ไทยเธียเตอร์ฟาวน์เดชั่น (Thai Theatre Foundation) เชื่อว่าศิลปะการละครเป็นของทุกคนเสมอกันและยึดมั่นในการดำเนินนโยบายไม...

ตอนเด็กๆเราขาวเหมือนกระดาษเลย จำได้ว่าที่บ้านมีฐานะยากจนตามนิยามรายได้ของครูที่โรงเรียน น้าคนหนึ่งต้องไปบวชเรียนเพื่อที่...
30/12/2021

ตอนเด็กๆเราขาวเหมือนกระดาษเลย

จำได้ว่าที่บ้านมีฐานะยากจนตามนิยามรายได้ของครูที่โรงเรียน

น้าคนหนึ่งต้องไปบวชเรียนเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดี น้าผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็ต้องไปทำงานในกรุงเทพ ส่วนลุงกับป้าก็มีชีวิตอยู่ในต่างจังหวัดทำงานหาเช้ากินค่ำ

ตอนนั้นพ่อกับแม่พยายามส่งเราไปเรียนที่โรงเรียนที่ดีที่สุด แต่เราก็กลับชอบเล่นที่บ้านมากกว่า เล่นสกปรกเล่นขี้ดินขี้ทราย และไปหาใบไม้มาเล่นขายของ

ยายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกทั้งหมดห้าคน
ตาทิ้งยายไปหาเมียน้อย ขนทรัพย์สมบัติไปให้เขาทั้งหมด แม้แต่ข้าวสารก็ขนไปให้เขา ไม่สนใจลูกๆ แต่สุดท้ายตาก็ตายโดยที่มียายเป็นคนไปเอาศพมาเผาเมียน้อยไม่ได้สนใจอะไร

ย้ายเป็นคนที่สู้ชีวิตมาก

วันนึงอาจจะเขียนถึงยาย

เรากับยายมีความผูกพันกันมากแต่อาจจะไม่สนิทเท่ากับยายและน้อง เพราะว่ายายเลี้ยงเรามาตั้งแต่ตอนที่เรายังเป็นเบบี้ แต่เราไม่ได้สนิทกับยายเพราะว่าตอนที่เราเริ่มเป็นวัยรุ่นเราต้องเข้าไปอยู่ในกรุงเทพ

แต่ความผูกพันนั้นก็ยังอยู่เสมอ ขนาดว่าเราตกน้ำยายยังฝันถึงและรู้ว่าเราตกน้ำในคืนวันที่เราตกน้ำเลย

บางทีเรื่องเร้นลับก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เราไม่เคยเข้าใจ ความผูกพันของผู้คนในครอบครัวเป็นสิ่งปรกติและบางครั้งก็แนบแน่นมากเสียจนตัวเราเองก็ไม่เข้าใจ

เคยมีคนบอกว่าคนยุคโบราณจะมีญาณวิเศษเที่ยวไว้ติดต่อกับลูกหลานในตอนที่ไม่มีเทคโนโลยีสื่อสารอย่างโทรศัพท์ มันก็อาจจะจริงก็ได้นะเพราะยายจะรู้ได้ยังไงว่าเราตกน้ำทั้งทั้งที่เราไม่ได้โทรบอก

ถ้าหากว่าเรามีเวลาอยู่กับยายมากกว่านี้อีกหน่อยเราก็อาจจะได้รับพลังนั้นมาจากยายก็ได้

แต่ว่าอยู่เท่านี้ก็โอเคแล้ว

ยายจากไปด้วยโรคมะเร็ง แต่แม่บอกว่ายายต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานถึง 12 ปี นับว่านานมากสำหรับคนที่เป็นมะเร็งปอด

แม่บอกว่าตอนแรกแม่ไม่บอกยายด้วยซ้ำว่ายายป่วยเป็นโรคมะเร็ง อาจจะเพราะเหตุนี้ก็ได้ทำให้ยายอยู่มาได้นานขนาดนี้

ก่อนที่ยายจะตาย ยายให้ผ้าแพรสีแดงกับเรา

เป็นผ้าแพรพื้นที่สองที่ยายยกให้เรา ผืนแรกสีเหลืองยายให้เราไว้ตอนที่เราต้องไปอยู่กรุงเทพ

ผืนที่สองเป็นสีแดงยายให้ไว้ก่อนที่จะสิ้นใจ เพราะเราเคยบอกว่าเราอยากได้ผืนสีแดงและเคยบอกยายว่าถ้ายายตายยกผ้าห่มสีแดงให้กับเรานะ

ยายก็ยกให้เราจริงๆ

ทำไมตอนนี้เราโพสต์รูปไม่ได้แล้วละ นั่นแน่ มาแล้ว Feliz Navida de Barcelona a todos🥰
24/12/2021

ทำไมตอนนี้เราโพสต์รูปไม่ได้แล้วละ นั่นแน่ มาแล้ว
Feliz Navida de Barcelona a todos🥰

Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when เรื่องของกรอฟฟฟฟ Kolf'story posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Event Planning Service?

Share