08/08/2018
ข้าวโพด น่าทาน
ข้าวโพด...ทำอะไรก็อร่อย
ข้าวโพดเป็นหนึ่งในธัญพืชที่เราคุ้นเคย สามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งคาวหวาน หาซื้อก็ง่าย แถมอร่อยอีกต่างหาก แต่ข้าวโพดไม่ได้เป็นแค่อาหารเท่านั้นนะ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาจากส่วนต่างๆ ของข้าวโพด โดยเฉพาะในน้ำมันเมล็ดข้าวโพดนี่ก็ไม่ธรรมดาเลย
สรรพคุณตามตำรายาไทยระบุว่า ราก มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้อาเจียนเป็นเลือด ต้นและใบ แก้นิ่ว ดอก (ยอดเกสรตัวเมีย) ขับปัสสาวะ แก้ถุงน้ำดีอักเสบและนิ่วในถุงน้ำดี เมล็ด ขับปัสสาวะ แก้คลื่นไส้อาเจียน ซัง ถอนพิษสำแดง ถอนพิษร้อนและพิษยา
การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่า น้ำมันข้าวโพดมีฤทธิ์ต้านภาวะหลอดเลือดแข็งตัว น้ำมันข้าวโพดและรำข้าวโพดมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด ทั้งคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ ยอดเกสรตัวเมียของข้าวโพด หรือที่ฝรั่งเรียกว่า corn silk มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ลดการอักเสบ และต้านภาวะเบาหวาน เมล็ดข้าวโพดมีเส้นใยสูง ช่วยในการขับถ่าย ข้าวโพดที่มีสีเหลืองจะอุดมไปด้วยสารคริปโตแซนทีน (cryptoxanthin) ซึ่งเป็นโปร-วิตามินเอ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวหนัง ส่วนข้าวโพดที่มีสีม่วงจะมีสารในกลุ่มแอนโทไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
การรับประทานน้ำมันข้าวโพดก็มีข้อควรระวัง เนื่องจากน้ำมันข้าวโพดเป็นน้ำมันที่มี polyunsaturated fatty acids สูง จึงอาจเสียสภาพได้ง่ายจากการสัมผัสกับอากาศ ความชื้น และความร้อน หรือที่เรียกว่าน้ำมันถูกออกซิไดซ์ ซึ่งน้ำมันที่เสียสภาพเหล่านี้หากรับประทานเข้าไป จะทำให้เกิดพิษต่อร่างกาย ดังนั้นควรป้องกันไม่ให้น้ำมันเสียสภาพ โดยต้องเก็บในที่เย็น ไม่มีความชื้นสูง ภาชนะบรรจุต้องปิดสนิทเพื่อไม่ให้น้ำมันสัมผัสกับออกซิเจน และไม่ควรใช้ความร้อนสูงในการประกอบอาหาร
(เครดิตข้อมูล : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)