23/10/2024
สหรัฐอเมริกาเคยใช้กฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายสุรานานเกือบ 14 ปี!
ย้อนไปเมื่อ 100 ปีก่อน โรงเหล้าหรือที่เรียกว่า ‘ซาลูน’ (Saloon) เป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนั้น เนื่องจากเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ และเป็นแหล่งความบันเทิงของชาวอเมริกัน แต่กลุ่มเคร่งศาสนามองว่า การจำหน่ายสุรานั้น เป็นสิ่งชั่วร้าย ผิดหลักศาสนา และเป็นต้นเหตุของอาชญากรรมและภัยสังคมต่างๆ เมื่อมีผู้สนับสนุนแนวคิดนี้เป็นจำนวนมาก จึงกดดันให้รัฐออกกฎหมาย ห้ามผลิตและจำหน่ายสุรา ได้ในที่สุด
ซึ่งแน่นอนว่า มีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว
จึงเกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม โดยแบ่งเป็น 2 ขั้ว คือ กลุ่ม ’เว็ท‘ (Wet) ผู้สนับสนุนการดื่มสุรา และกลุ่ม ‘ดรายส์‘ (Drys) ผู้ต่อต้านการดื่มสุรา
โดยกลุ่ม ‘ดรายส์’ ผู้ต่อต้านการดื่มสุรา ให้เหตุผลว่า สุรานำความเสื่อมทราม
มาสู่สังคม จึงสร้างภาพลักษณ์ให้กับกลุ่มของตนว่า เป็นคนดี มีศีลธรรม สร้างประเพณีอันดีงามให้กับสังคม ส่วนกลุ่ม ‘เว็ท’ มองว่าการดื่มสุรา เป็นสิทธิ เสรีภาพ ที่บุคคลสามารถใช้วิจารณญาณได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายมาบังคับ
เมื่อกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายสุรา มีผลบังคับใช้ แทนที่จะเกิดศีลธรรมและ
ความดีงามในสังคม แต่กลับส่งผลร้ายหลายประการ เนื่องจากยังคงมีอุปสงค์ของ
ผู้บริโภคอยู่ จึงเกิดอุปทานโดยการลักลอบนำเข้า ‘เหล้าเถื่อน’ มาจากต่างประเทศ
โดยกลุ่มมาเฟีย ที่ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งนอกจากรัฐจะเก็บภาษีจากการจำหน่ายสุราไม่ได้แล้ว สถิติการก่ออาชญากรรม กลับมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น สวนทางกับสิ่งที่กลุ่ม ‘ดรายส์’ คาดหวังไว้อย่างสิ้นเชิง
ต่อมา สหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประกอบกับปัญหามาเฟียครองเมือง จึงมีกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายห้ามผลิตและจำหน่ายสุรา เพื่อเก็บภาษีมาพยุงสถานะทางการเงิน และลดอิทธิพลของมาเฟียในประเทศ
จึงมีพรรคการเมืองที่นำนโยบายการ ‘ปลดล็อคสุรา’ มาใช้ในการหาเสียง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ‘ประชาชน’ อย่างท่วมท้น จึงแก้กฎหมายให้สุรากลับมาสู่วิถีชีวิตของชาวอเมริกันอย่างปกติสุขอีกครั้ง โรงผลิตสุรามีการฟื้นฟูกิจการ เศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น เมื่อสุรากลับมาถูกกฎหมาย เหล้าเถื่อนกับมาเฟียก็ค่อยๆหายไป สุราจึงกลายเป็นสินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศสหรฐอเมริกาให้ผ่านพ้นมาได้.
หวังว่าสุราไทยจะได้รับการสนับสนุนมากกว่าที่เป็นอยู่🙏🏻
#สุราก้าวหน้า #สุราชุมชน #สุราประชาชน #ประชาชนเบียร์
