Slowroom Talad Noi's creative hub | Art rebels welcome. Sunday workshops, Where Bangkok's creativity thrives

ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสร้างสรรค์ใน Painting Workshop เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 🎨พลังและความตั้งใจของทุกคนทำให้ SLOWROOM เต็...
14/11/2024

ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสร้างสรรค์ใน Painting Workshop เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 🎨

พลังและความตั้งใจของทุกคนทำให้ SLOWROOM เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ทุกผลงานสะท้อนตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่างน่าทึ่ง

ใครที่พลาดในครั้งนี้ เราจะมี Workshop ดีๆ แบบนี้อีกแน่นอน ติดตามกันได้ที่ช่องทางโซเชียลของเรา หรือถ้าอยากมาแวะเยี่ยมชม ก็ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ 😁

ขอบคุณอีกครั้งที่มาเป็นส่วนหนึ่งของ SLOWROOM ไว้มาสร้างสรรค์ด้วยกันอีกนะ

สนใจ Workshop อื่นๆ หรือ สอบถามได้ที่ https://lin.ee/JMTtc5U
หรือโทร 082-822-2380 (บิว)

#ศิลปะเพื่อการผ่อนคลาย #ตลาดน้อย #คาเฟ่ตลาดน้อย #ทรงวาดตลาดน้อย #ที่เที่ยววันหยุด #เวิร์คชอป #เวิร์คช็อปกรุงเทพ

Self-Discovery Your Creative Flow 💫 เวิร์กช็อปสำหรับชาวครีเอทีฟที่อยากปลดล็อกอาการเบิร์นเอาท์จากงานมาค้นพบตัวตนและฟื้นฟู...
12/11/2024

Self-Discovery Your Creative Flow 💫 เวิร์กช็อปสำหรับชาวครีเอทีฟที่อยากปลดล็อกอาการเบิร์นเอาท์จากงาน

มาค้นพบตัวตนและฟื้นฟูพลังสร้างสรรค์ไปด้วยกัน ในเวิร์กช็อปที่ผสมผสานงานศิลปะเข้ากับหลัก emotional intelligence

❤️เหมาะสำหรับ
• ศิลปิน นักออกแบบ content creators
• คนทำงานสายครีเอทีฟ
• ใครก็ตามที่อยากจัดการความเครียดและเข้าใจตัวเองมากขึ้น
**ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางศิลปะ

❤️คุณจะได้
• Explore your emotions ผ่านการสัมผัสวัสดุหลากหลาย
• Deepen self-awareness ด้วยประสบการณ์ tactile
• เรียนรู้วิธี Improve emotional management จากงานวิจัยล่าสุด
• Boost creativity ด้วยการลงมือทำงานศิลปะ

🥇วิทยากร
คุณโบว์ - Parintorn Tungtawee M.A. Psychology in Education, Teachers College, Columbia University (Spirituality Mind Body Institute)

คุณโบว์เป็นวิทยากรมากประสบการณ์ ที่ผสมผสานความรู้ด้านจิตวิทยาเข้ากับงานสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว เธอจะพาคุณสำรวจโลกภายในผ่านงานศิลปะ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้และค้นพบเส้นทางสู่การเติบโตภายใน

📅 รายละเอียด
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2567 (วันอาทิตย์)
เวลา: 13.00 - 16.00 น.
สถานที่: SLOWROOM workshop & space ตลาดน้อย (MRT หัวลำโพง)
ราคา: 1,590 บาท (จำกัดเพียง 12 คนเท่านั้น)

📌 สนใจเข้าร่วม สมัครได้ที่
โทร: 082-822-2380 (บิว)
Line: หรือ https://lin.ee/FU1czT6

เจาะลึกโลกของ RenoirPierre-Auguste Renoir หนึ่งในศิลปินชั้นนำแห่งยุค Impressionism ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่เปี่ยมด้วยชีวิตช...
31/10/2024

เจาะลึกโลกของ Renoir

Pierre-Auguste Renoir หนึ่งในศิลปินชั้นนำแห่งยุค Impressionism ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและความสุข เกิดเมื่อปี 1841 ในเมือง Limoges ประเทศฝรั่งเศส Renoir เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นจิตรกรตกแต่งเครื่องเคลือบดินเผา ก่อนจะค้นพบความหลงใหลในจิตรกรรม

ผลงานของ Renoir โดดเด่นด้วยการใช้สีสันสดใสและการจับภาพช่วงเวลาแห่งความสุขในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นภาพงานเต้นรำ ปิกนิกริมแม่น้ำ หรือภาพบุคคล เขามักเน้นการถ่ายทอดความงามของผู้คน โดยเฉพาะสตรีและเด็ก ด้วยฝีแปรงที่อ่อนโยนและการใช้แสงที่นุ่มนวล

หนึ่งในผลงานที่โด่งดังที่สุดของเขาคือ "Luncheon of the Boating Party" (1880-1881) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจับภาพบรรยากาศที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา ภาพนี้สะท้อนให้เห็นถึงเทคนิคการใช้สีและแสงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Renoir ที่สามารถสร้างความรู้สึกของความเคลื่อนไหวและชีวิตบนผืนผ้าใบได้อย่างน่าทึ่ง

Renoir ไม่เพียงแต่สร้างภาพที่สวยงาม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสุขและความงามในชีวิตประจำวัน แม้ในช่วงท้ายของชีวิตที่เขาต้องทนทุกข์กับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เขาก็ยังคงวาดภาพต่อไป โดยผูกพู่กันเข้ากับมือที่บิดเบี้ยว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความรักในศิลปะอย่างแท้จริง

อยากลองสัมผัสประสบการณ์การวาดภาพแบบ Renoir ด้วยตัวคุณเองไหม?

เรามี Workshop พิเศษที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกของ Impressionism โดยมี Foofluffy (อิง) นักวาดภาพประกอบมากความสามารถเป็นผู้นำทาง

ในเวิร์คช็อปนี้ คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้สีอะคริลิคบนผ้าใบ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยสีสันและอารมณ์แบบ Renoir โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน แค่มีใจรักในศิลปะก็พอ!

📅 วันที่: 10 พฤศจิกายน
⏰ เวลา: 13.00 - 16.00 น.
📍 สถานที่: Slowroom ชั้น 2 ของร้าน Prumplum Stand ตลาดน้อย
💰 ราคา: 1,590 บาท (รวมอุปกรณ์)

หากสนใจสามารถ DM เพื่อจองที่นั่งได้เลย

เจาะลึกโลกของ Van GoghVincent van Gogh ศิลปินชาวดัตช์ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยอารมณ์และพลังอันเข้มข้น เกิดเมื่อปี ...
30/10/2024

เจาะลึกโลกของ Van Gogh

Vincent van Gogh ศิลปินชาวดัตช์ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยอารมณ์และพลังอันเข้มข้น เกิดเมื่อปี 1853 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ Van Gogh เริ่มต้นอาชีพศิลปินในวัย 27 ปี หลังจากผ่านประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย ทั้งการเป็นพ่อค้างานศิลปะและนักเทศน์

ผลงานของ Van Gogh โดดเด่นด้วยการใช้สีสันสดใสและฝีแปรงที่หนักแน่น สะท้อนอารมณ์อันเข้มข้นของศิลปิน เขามักวาดภาพทิวทัศน์ ดอกไม้ และภาพเหมือนตนเอง โดยใช้เทคนิคการวาดที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การใช้สีบริสุทธิ์และการสร้างพื้นผิวด้วยฝีแปรงที่ชัดเจน

หนึ่งในผลงานที่โด่งดังที่สุดของเขาคือ "The Starry Night" (1889) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจินตนาการอันบรรเจิดและการใช้สีที่สื่อถึงอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง ภาพนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของ Van Gogh ในการถ่ายทอดความรู้สึกภายในผ่านภาพทิวทัศน์ที่มีชีวิตชีวา

Van Gogh ไม่เพียงแต่สร้างภาพที่สวยงาม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์และความงามในโลกรอบตัว แม้ว่าเขาจะต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตตลอดชีวิต แต่เขาก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงานที่ทรงพลังและมีอิทธิพลต่อวงการศิลปะจนถึงปัจจุบัน

อยากลองสัมผัสประสบการณ์การวาดภาพแบบ Van Gogh ด้วยตัวคุณเองไหม?

เรามี Workshop พิเศษที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกของ Post-Impressionism โดยมี Foofluffy (อิง) นักวาดภาพประกอบมากความสามารถเป็นผู้นำทาง

ในเวิร์คช็อปนี้ คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้สีอะคริลิคบนผ้าใบ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยอารมณ์และพลังแบบ Van Gogh โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน แค่มีใจรักในศิลปะก็พอ!

📅 วันที่: 10 พฤศจิกายน
⏰ เวลา: 13.00 - 16.00 น.
📍 สถานที่: Slowroom ชั้น 2 ของร้าน Prumplum Stand ตลาดน้อย
💰 ราคา: 1,590 บาท (รวมอุปกรณ์)

🪄 DM หรือ ทักแชทเพื่อจองที่กับเราได้เลย

Renoir & Van Gogh Painting Workshopสัมผัสโลกของ Renoir และ Van Gogh🤔 เคยสงสัยไหมว่าทำไมสีสันสดใสและฝีแปรงอันเป็นเอกลักษณ...
30/10/2024

Renoir & Van Gogh Painting Workshop
สัมผัสโลกของ Renoir และ Van Gogh

🤔 เคยสงสัยไหมว่าทำไมสีสันสดใสและฝีแปรงอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาถึงสามารถสะกดผู้ชมได้มาเนิ่นนาน?

10 พฤศจิกายนนี้ คุณมีโอกาสที่จะได้ไขข้อสงสัยและสัมผัสประสบการณ์การวาดภาพแบบ Impressionism ด้วยตัวคุณเอง!

Impressionism คือศิลปะแห่งความประทับใจแรก ที่จับภาพความงามของแสงและสีในช่วงเวลาหนึ่ง ศิลปินกลุ่มนี้ไม่ได้วาดภาพตามความเป็นจริง แต่พวกเขาถ่ายทอดความรู้สึกและอารมณ์ผ่านสีสันและลายแปรงอันเป็นเอกลักษณ์

Renoir มักวาดภาพผู้คนในช่วงเวลาแห่งความสุข ไม่ว่าจะเป็นงานเต้นรำหรือปิกนิกริมแม่น้ำ ในขณะที่ Van Gogh ถ่ายทอดอารมณ์อันเข้มข้นผ่านสีสันสดใสและฝีแปรงที่หนักแน่น

✨ แล้วถ้าคุณอยากลองวาดภาพแบบพวกเขาล่ะ?

เรามี Workshop พิเศษที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกของ Renoir และ Van Gogh โดยมี Foofluffy (อิง) นักวาดภาพประกอบมากความสามารถเป็นผู้นำทาง

อิงเป็นศิลปินที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างโลกแห่งจินตนาการสำหรับเด็ก ด้วยภาพวาดที่เต็มไปด้วยขนม ดวงดาว และก้อนเมฆนุ่มฟู นอกจากนี้ เธอยังผสมผสานศิลปะไทยเข้ากับงานของเธออย่างลงตัว ทำให้ผลงานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในเวิร์คช็อปนี้ คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้สีอะคริลิคบนผ้าใบ โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน แค่มีใจรักในศิลปะก็พอ!

📅 วันที่: 10 พฤศจิกายน
⏰ เวลา: 13.00 - 16.00 น.
📍 สถานที่: Slowroom ชั้น 2 ของร้าน Prumplum Stand ตลาดน้อย 💰 ราคา: 1,590 บาท (รวมอุปกรณ์)

จำนวนที่นั่งมีจำกัด รีบจองก่อนหมดนะ!
🪄 DM หรือ ทักแชทเพื่อจองที่กับเราได้เลย

มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยสีสันและอารมณ์แบบ Impressionism กัน รับรองว่าคุณจะได้กลับบ้านพร้อมภาพวาดสวยๆ และความทรงจำดีๆ แน่นอน!

Bangkok Art Biennale 2024 การเดินทางสู่การเยียวยาโลก 🌏ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างที่ไม...
04/10/2024

Bangkok Art Biennale 2024 การเดินทางสู่การเยียวยาโลก 🌏

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน Bangkok Art Biennale 2024 ได้นำเสนอแนวคิด "Nurture Gaia" หรือ "รักษา กายา" อันเป็นการเชื่อมโยงศิลปะร่วมสมัยเข้ากับแนวคิดเชิงนิเวศวิทยาและความเป็นแม่ของธรรมชาติ

การนำเสนอแนวคิดนี้ในบริบทของกรุงเทพมหานคร เมืองที่กำลังเผชิญกับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เป็นการตั้งคำถามที่น่าสนใจ: ศิลปะจะสามารถสร้างความตระหนักและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในสังคมเมืองได้อย่างไร?

การเลือกสถานที่จัดแสดงที่หลากหลาย ทั้งพื้นที่ทางศาสนา พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ร่วมสมัย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าด้วยกัน แต่จะเกิดการบูรณาการระหว่างงานศิลปะร่วมสมัยกับสถานที่เหล่านี้ได้อย่างกลมกลืนหรือไม่?

รายชื่อศิลปินที่ประกาศมาแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทั้งในแง่ของเชื้อชาติและประสบการณ์ การผสมผสานระหว่างศิลปินระดับโลกและศิลปินท้องถิ่นอาจนำมาซึ่งมุมมองที่แตกต่างและน่าสนใจ แต่จะมีการสร้างสมดุลระหว่างเสียงของศิลปินที่มีชื่อเสียงและศิลปินรุ่นใหม่ได้อย่างไร?

แนวคิด "Nurture Gaia" เป็นประเด็นที่กว้างและลึกซึ้ง การตีความของศิลปินแต่ละคนจะแตกต่างกันอย่างไร? และจะมีการนำเสนอมุมมองที่ท้าทายหรือแหวกแนวต่อประเด็นนี้หรือไม่?

การจัดงานในครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมผ่านโครงการ Open Call ซึ่งเป็นการส่งเสริมความหลากหลายและการค้นพบเสียงใหม่ๆ ในวงการศิลปะ แต่จะมีกระบวนการคัดเลือกและสนับสนุนศิลปินเหล่านี้อย่างไรเพื่อให้สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่?

Bangkok Art Biennale 2024 ดูเหมือนจะเป็นเวทีที่น่าตื่นเต้นสำหรับการแลกเปลี่ยนทางความคิดและศิลปะ แต่ความท้าทายที่แท้จริงอาจอยู่ที่การสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นอกเหนือไปจากช่วงเวลาของการจัดแสดง

ในท้ายที่สุด เราอาจต้องถามตัวเองว่า ศิลปะสามารถเป็นมากกว่าภาพสะท้อนของสังคมและกลายเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือไม่? Bangkok Art Biennale 2024 อาจเป็นโอกาสที่ดีในการค้นหาคำตอบสำหรับคำถามนี้

ศิลปะกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 🌎 มองผ่านผลงานของ Olafur EliassonOlafur Eliasson ศิลปินร่วมสมัยชาวเดนมาร์ก-ไอซ์แลนด์...
03/10/2024

ศิลปะกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 🌎 มองผ่านผลงานของ Olafur Eliasson

Olafur Eliasson ศิลปินร่วมสมัยชาวเดนมาร์ก-ไอซ์แลนด์ ได้สร้างผลงานที่เชื่อมโยงศิลปะกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาอย่างยาวนาน แต่ผลงานล่าสุดของเขากลับทำให้เราต้องตั้งคำถามว่า ศิลปะสามารถสื่อสารปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือ?

"The Glacier Melt Series 1999/2019" นำเสนอภาพถ่ายเปรียบเทียบการละลายของธารน้ำแข็งในช่วง 20 ปี แม้จะให้ข้อมูลชัดเจน แต่กลับขาดพลังทางอารมณ์ที่จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่ "The Last Seven Days of Glacial Ice" แปรสภาพน้ำแข็งให้เป็นงานประติมากรรมสำริด สร้างความงามแต่อาจทำให้ปัญหาดูห่างไกลจากความเป็นจริง

Eliasson พยายามสร้างสมดุลระหว่างการให้ข้อมูลและการสร้างประสบการณ์ แต่บางครั้งก็เกิดความไม่ลงตัว เช่นเดียวกับ "Adrift Compass" ที่สะท้อนความขัดแย้งระหว่างการรับรู้ปัญหาและความสามารถในการแก้ไข

คำถามสำคัญคือ ศิลปะควรเน้นการให้ข้อมูลหรือการสร้างประสบการณ์? การทำให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็น "ความงาม" จะช่วยสร้างความตระหนักหรือทำให้เรารู้สึกห่างไกลจากปัญหามากขึ้น?

เราอาจต้องย้อนกลับไปดูผลงานอย่าง "Weather Project" (2003) ที่ Tate Modern ซึ่งสร้างประสบการณ์ร่วมที่ทรงพลัง หรือแม้แต่ "7000 Oaks" (1982) ของ Joseph Beuys ที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อหาแนวทางใหม่ในการสื่อสารปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านศิลปะ

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นวิกฤตเร่งด่วน ศิลปะจะสามารถสร้างความตระหนักและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร? นี่คือโจทย์ท้าทายที่ศิลปินร่วมสมัยต้องเผชิญ

ที่มา: https://www.artnews.com/art-in-america/aia-reviews/olafur-eliasson-sience-spectacle-singapore-moca-pst-1234718663/

เส้นทางสู่การเป็นนักวิจารณ์ศิลปะ คุณเคยสงสัยไหมว่านักวิจารณ์ศิลปะมองเห็นอะไรในภาพที่เราไม่เห็น? 🤔ในห้วงเวลาที่โลกเคลื่อน...
03/10/2024

เส้นทางสู่การเป็นนักวิจารณ์ศิลปะ คุณเคยสงสัยไหมว่านักวิจารณ์ศิลปะมองเห็นอะไรในภาพที่เราไม่เห็น? 🤔

ในห้วงเวลาที่โลกเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว การก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักวิจารณ์ศิลปะเป็นดั่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยความหมาย เราจะค่อยๆ ไขว่คว้าความเข้าใจในศิลปะอย่างลึกซึ้ง ผ่านการเรียนรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างช้าๆ

1️⃣ ประวัติศาสตร์ศิลปะ - รากฐานแห่งความเข้าใจ เราเริ่มต้นด้วยการศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างละเอียด ไม่เพียงแค่จดจำชื่อศิลปินหรือผลงาน แต่เป็นการทำความเข้าใจบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่หล่อหลอมงานศิลปะในแต่ละยุคสมัย "The Story of Art" ของ E.H. Gombrich เป็นเสมือนแผนที่ที่จะนำทางเราผ่านห้วงเวลาอันยาวนานของประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก

2️⃣ การวิเคราะห์ - มองให้เห็น เข้าใจให้ลึก การฝึกฝนการมองและวิเคราะห์ผลงานศิลปะเป็นทักษะที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราต้องเรียนรู้ที่จะมองให้เห็นมากกว่าภาพที่ปรากฏ แต่เป็นการเข้าใจถึงแนวคิด เทคนิค และความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง John Berger ผ่านผลงาน "Ways of Seeing" ได้เปิดมุมมองใหม่ในการตีความงานศิลปะ โดยเชื่อมโยงกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง

3️⃣ ทฤษฎีศิลปะและสุนทรียศาสตร์ - เครื่องมือแห่งการตีความ การเข้าใจทฤษฎีศิลปะและสุนทรียศาสตร์เป็นเสมือนกุญแจที่จะไขความลับของงานศิลปะ "Art and Its Objects" ของ Richard Wollheim นำเสนอมุมมองทางปรัชญาที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของศิลปะและการรับรู้ทางสุนทรียะได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

4️⃣ ศิลปะร่วมสมัย - ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลง การติดตามความเคลื่อนไหวในวงการศิลปะร่วมสมัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักวิจารณ์ศิลปะ Rosalind Krauss นักวิจารณ์และนักทฤษฎีศิลปะชาวอเมริกัน ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการวิเคราะห์และตีความศิลปะหลังสมัยใหม่อย่างลึกซึ้ง

5️⃣ การเป็นนักวิจารณ์ศิลปะไม่ใช่เพียงการสั่งสมความรู้ แต่เป็นการพัฒนาความเข้าใจและความละเอียดอ่อนในการมองโลก เราต้องเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ พร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับโลกศิลปะที่ไม่หยุดนิ่ง

ในท้ายที่สุด การเป็นนักวิจารณ์ศิลปะคือการเดินทางที่ไม่มีจุดสิ้นสุด เราจะค่อยๆ เติบโตและพัฒนาไปพร้อมกับประสบการณ์และความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นในแต่ละวัน

เซน - รากฐานแห่งจิตวิญญาณญี่ปุ่นในความเงียบของสวนหิน ในเสียงน้ำชาที่ริน ในทุกย่างก้าวบนทางเดินโรจิ... ที่นั่น คือเซน หัว...
02/10/2024

เซน - รากฐานแห่งจิตวิญญาณญี่ปุ่น

ในความเงียบของสวนหิน ในเสียงน้ำชาที่ริน ในทุกย่างก้าวบนทางเดินโรจิ... ที่นั่น คือเซน หัวใจของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่หล่อหลอมวิถีชีวิตและสุนทรียศาสตร์มาหลายศตวรรษ

เซนเดินทางจากอินเดีย ผ่านจีน ก่อนจะหยั่งรากลึกในญี่ปุ่นช่วงศตวรรษที่ 12 ไม่เพียงเป็นแนวคิดทางศาสนา แต่เซนได้แทรกซึมเข้าสู่ทุกแง่มุมของชีวิต ตั้งแต่การชงชา ไปจนถึงการจัดสวน

"วาบิ-ซาบิ" (Wabi-Sabi) ปรัชญาที่เห็นความงามในความไม่สมบูรณ์แบบ เกิดจากแนวคิดเซน สะท้อนผ่านถ้วยชาที่มีรอยร้าว หรือกิ่งไม้ที่คดงอในแจกัน เตือนใจให้เราเห็นคุณค่าของทุกขณะที่ผ่านไป

"มุ" (Mu) หรือความว่างเปล่า ไม่ใช่การไร้ซึ่งสิ่งใด แต่เป็นพื้นที่แห่งความเป็นไปได้ เห็นได้จากห้องโถงว่างเปล่าในวัดเซน ที่เชื้อเชิญให้จิตใจเราเติมเต็มด้วยสมาธิและปัญญา

ศิลปะการต่อสู้ของซามูไร ก็ได้รับอิทธิพลจากเซน การฝึกฝนจนถึงจุดที่ร่างกายและจิตใจเป็นหนึ่งเดียว ไม่ต่างจากการนั่งสมาธิ ทำให้ดาบและนักรบเป็นหนึ่งเดียวกัน

แม้แต่ในโลกสมัยใหม่ เซนยังคงมีบทบาทสำคัญ หลายบริษัทญี่ปุ่นนำแนวคิดเซนมาประยุกต์ใช้ในการบริหาร เน้นความเรียบง่าย ประสิทธิภาพ และการอยู่กับปัจจุบัน

ที่ SLOWROOM เราเชื่อว่าการเข้าใจเซน คือการเข้าใจหัวใจของวัฒนธรรมญี่ปุ่น และอาจเป็นกุญแจสู่การใช้ชีวิตอย่างมีความหมายในโลกที่วุ่นวาย

เซนสอนเราว่า ความลึกซึ้งอยู่ในความเรียบง่าย ความสงบอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย และการตื่นรู้อยู่ในทุกลมหายใจ

วันนี้ ลองหยุดสักครู่ มองรอบตัว และถามตัวเองว่า คุณเห็นเซนในชีวิตประจำวันของคุณหรือไม่? บางที คำตอบอาจอยู่ในถ้วยกาแฟที่คุณถือ หรือในเสียงฝนที่ตกอยู่นอกหน้าต่าง 🍃

ในโลกที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์และความคาดหวัง ศิลปะทดลองคือการปลดปล่อยจิตวิญญาณให้โบยบิน 🕊️ เป็นการท้าทายขอบเขตของความเป็นไปได...
02/10/2024

ในโลกที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์และความคาดหวัง ศิลปะทดลองคือการปลดปล่อยจิตวิญญาณให้โบยบิน 🕊️ เป็นการท้าทายขอบเขตของความเป็นไปได้ และสำรวจพื้นที่ที่ไม่มีใครกล้าย่างกราย

ย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ศิลปินเริ่มตั้งคำถามกับรูปแบบดั้งเดิม พวกเขาเริ่มทดลองกับวัสดุ เทคนิค และแนวคิดใหม่ๆ

🚽Marcel Duchamp กับ "Fountain" ของเขา - โถปัสสาวะที่ถูกนำมาจัดวางในแกลเลอรี่ - ได้ท้าทายนิยามของศิลปะอย่างสิ้นเชิง

🎵 John Cage กับบทประพันธ์ "4'33"" ของเขา - ที่นักดนตรีนั่งเงียบนาน 4 นาที 33 วินาที - ได้เปิดหูเปิดตาผู้คนให้ฟังเสียงรอบตัว และตระหนักว่าความเงียบก็คือดนตรี

✂️ Yoko Ono กับ "Cut Piece" ที่เธอนั่งนิ่งให้ผู้ชมตัดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้น เป็นการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินและผู้ชม ระหว่างการให้และการรับ

ศิลปะทดลองไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหอศิลป์ แต่แทรกซึมเข้าสู่ชีวิตประจำวันของเรา เสียงเพลงแปลกหูที่ได้ยินจากวิทยุ ภาพยนตร์ที่ท้าทายการรับรู้ของเรา หรือแม้แต่อาหารที่เล่นกับประสาทสัมผัสของเรา ล้วนเป็นผลพวงของการทดลองทางศิลปะทั้งสิ้น

ในยุคปัจจุบัน ศิลปะทดลองยังคงพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ศิลปินร่วมสมัยอย่าง Olafur Eliasson สร้างงานที่เล่นกับแสงและการรับรู้ ในขณะที่ Ai Weiwei ใช้ศิลปะเพื่อวิพากษ์สังคมและการเมือง

🌱 Slowroom เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับการทดลองทางศิลปะเช่นนี้ ที่นี่ เราเชื่อในพลังของความช้า ในการหยุดและสังเกต ในการสัมผัสและรู้สึก ศิลปะไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราดู แต่เป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้ด้วยทุกประสาทสัมผัส

ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย Slowroom เป็นที่พักใจ เป็นที่ที่คุณสามารถหยุด ฟัง และสัมผัสกับความเงียบภายในตัวคุณ เพื่อค้นพบเสียงที่แท้จริงของคุณเอง

ศิลปะทดลองคือการฟังเสียงนั้น และแสดงมันออกมาในรูปแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพด้วยเสียง การวาดภาพด้วยร่างกาย หรือการสร้างประติมากรรมด้วยแสง

ในที่สุดแล้ว ศิลปะทดลองไม่ใช่เพียงเรื่องของการสร้างชิ้นงาน แต่เป็นเรื่องของการเปิดใจ การท้าทายตัวเอง และการมองโลกในมุมที่ไม่เคยมองมาก่อน

คุณพร้อมที่จะเริ่มการเดินทางนี้แล้วหรือยัง? ที่ Slowroom เรารอคอยที่จะได้เห็นโลกผ่านดวงตาของคุณ 👀✨

กระดาษ - แผ่นบางที่บันทึกประวัติศาสตร์มนุษยชาติในโลกดิจิทัลที่ข้อมูลถูกเก็บในรูปแบบของตัวเลขไร้ตัวตน กระดาษยังคงมีเสน่ห์...
01/10/2024

กระดาษ - แผ่นบางที่บันทึกประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ในโลกดิจิทัลที่ข้อมูลถูกเก็บในรูปแบบของตัวเลขไร้ตัวตน กระดาษยังคงมีเสน่ห์ที่สัมผัสได้ ที่ SLOWROOM เราเชื่อว่าการเข้าใจประวัติศาสตร์และคุณค่าของกระดาษ คือการเข้าใจรากเหง้าของการสื่อสารและศิลปะของมนุษย์

📜 จากปาปิรุสสู่กระดาษ การเดินทางข้ามกาลเวลา

เรื่องราวของกระดาษเริ่มต้นในอียิปต์โบราณ ด้วยปาปิรุสที่ทำจากต้นกก ผ่านมาสู่จีนในศตวรรษที่ 2 ที่ไช่ หลุน คิดค้นกระดาษจากเปลือกไม้ เส้นใยพืช และเศษผ้า กระบวนการนี้แพร่หลายไปทั่วเอเชีย ก่อนจะเดินทางสู่โลกตะวันตกผ่านเส้นทางสายไหม

แต่ละวัฒนธรรมมีเอกลักษณ์ในการทำกระดาษ

- ญี่ปุ่นมี "วาชิ" กระดาษบางเบาแต่แข็งแรง
- เกาหลีมี "ฮันจิ" ที่ใช้เปลือกต้นหม่อน
- ไทยมีกระดาษสาที่ทำจากต้นปอสา

🎨 กระดาษในงานศิลปะ ผืนผ้าใบแห่งจินตนาการ

ในโลกของศิลปะ กระดาษไม่ใช่เพียงพื้นผิวรองรับ แต่เป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ

- กระดาษสีน้ำ ด้วยพื้นผิวที่ดูดซึมน้ำ ทำให้สีระบายได้อย่างนุ่มนวล
- กระดาษวาดเส้น ที่รับน้ำหนักดินสอได้หลากหลาย
- กระดาษสำหรับพิมพ์ภาพ ที่รองรับเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่พิมพ์ไม้หรือโลหะ
ที่ SLOWROOM เราชื่นชอบกระดาษคราฟท์ ด้วยสีและพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติ สะท้อนปรัชญา "วาบิ-ซาบิ" ความงามในความไม่สมบูรณ์แบบ

✍️ สัมผัสแห่งกระดาษ การกลับสู่ธรรมชาติ

การสัมผัสกระดาษ ไม่ว่าจะเป็นความหยาบของกระดาษรีไซเคิล หรือความนุ่มของกระดาษฝ้าย ล้วนเป็นการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เป็นการย้อนกลับสู่ยุคที่มนุษย์ใกล้ชิดกับวัตถุดิบจากธรรมชาติมากกว่า

ในยุคที่ทุกอย่างเป็นดิจิทัล การกลับมาสัมผัสกระดาษ ไม่ว่าจะผ่านการเขียน วาด หรือพับ เป็นการฝึกสติและสมาธิไปในตัว เป็นการชะลอจังหวะชีวิตให้ช้าลง และซึมซับความงามของกระบวนการ

วันนี้ ลองหยิบกระดาษสักแผ่น สัมผัสพื้นผิว ดมกลิ่น และลองสร้างสรรค์อะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ตัวอักษร หรือแม้แต่การพับเป็นรูปทรง คุณอาจพบว่า ในความเรียบง่ายของกระดาษ มีเรื่องราวและความงามที่รอการค้นพบ

แล้วคุณล่ะ มีความทรงจำพิเศษเกี่ยวกับกระดาษอะไรบ้าง? แบ่งปันให้เราฟังได้นะ 📝

ตุลาคม เดือนแห่งการค้นพบศิลปะและตัวตน ที่ SLOWROOMในห้วงเวลาที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว SLOWROOM ขอเชิญชวนท่านมาร่วมค้นพบคว...
01/10/2024

ตุลาคม เดือนแห่งการค้นพบศิลปะและตัวตน ที่ SLOWROOM

ในห้วงเวลาที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว SLOWROOM ขอเชิญชวนท่านมาร่วมค้นพบความงามของการชะลอจังหวะชีวิต ผ่านสองเวิร์กชอปที่จะพาท่านดื่มด่ำกับศิลปะญี่ปุ่นอันลึกซึ้ง

🍃 วันที่ 26 ตุลาคม | 13.00-16.00 น. Workshop Ikebana โดย คุณนัน

อิเคบานะ ศิลปะการจัดดอกไม้ที่เริ่มต้นจากพิธีกรรมทางศาสนาในศตวรรษที่ 7 สู่ศิลปะอันประณีตในยุคซามูไร เป็นมากกว่าการจัดวางดอกไม้ให้งดงาม แต่เป็นการสื่อสารกับธรรมชาติและจักรวาล

ในเวิร์กชอปนี้ ท่านจะได้
• สัมผัสถึงแก่นแท้ของอิเคบานะผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนาน
• เรียนรู้การจัดดอกไม้ที่สะท้อนปรัชญาชีวิตแบบญี่ปุ่น
• ค้นพบสมาธิและความสงบผ่านการจัดดอกไม้

🍃 วันที่ 27 ตุลาคม | 13.00-16.00 น. ศิลปะกระดาษคราฟต์ โดย คุณน้ำมนต์

กระดาษ วัสดุธรรมดาที่ซ่อนความพิเศษไว้ในทุกเส้นใย จากจุดกำเนิดในประเทศจีนเมื่อ 2,000 ปีก่อน สู่ศิลปะ "วาชิ" อันทรงคุณค่าของญี่ปุ่น

ในเวิร์กชอปนี้ ท่านจะได้
• ย้อนรอยประวัติศาสตร์การทำกระดาษผ่านการสาธิตแบบดั้งเดิม
• สัมผัสถึงความแตกต่างของกระดาษคราฟต์แต่ละชนิดด้วยตัวท่านเอง
• สร้างสรรค์ผลงานกระดาษคราฟต์พิเศษ ที่สะท้อนเรื่องราวของตัวท่าน

ทั้งสองเวิร์กชอปนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอเทคนิคการสร้างสรรค์ แต่ยังเป็นการเดินทางภายในจิตใจ ที่จะพาท่านสัมผัสถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ผ่านงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความหมาย

ขอเชิญท่านมาร่วมค้นพบความงามที่ซ่อนอยู่ในความเรียบง่าย และปลุกศิลปินที่ซ่อนอยู่ในตัวท่าน ติดตามรายละเอียดการลงทะเบียนได้เร็วๆ นี้ ด้วยจำนวนที่นั่งจำกัด เพื่อประสบการณ์การเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง


October at SLOWROOM: Discover Art and Self

This October, SLOWROOM invites you to explore the beauty of slow living through two immersive Japanese art workshops:

• Oct 26: Ikebana Workshop - Experience the ancient art of flower arrangement, reflecting Japanese philosophy and mindfulness.

• Oct 27: Craft Paper Art Workshop - Delve into the history of papermaking and create your own artwork on special craft paper.

Join us to uncover the beauty in simplicity and awaken your inner artist. Limited seats available for an intimate learning experience.

กรุงเทพฯ กำลังจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางศิลปะแห่งใหม่ของเอเชีย? 🌏เมื่อศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหอศิลป์อีกต่อไป แต่กำลังแท...
30/09/2024

กรุงเทพฯ กำลังจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางศิลปะแห่งใหม่ของเอเชีย? 🌏

เมื่อศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหอศิลป์อีกต่อไป แต่กำลังแทรกซึมเข้าสู่ชีวิตประจำวันของคนเมืองอย่างแนบเนียน โครงการ "วัน แบงค็อก" กำลังจะพลิกโฉมภูมิทัศน์ทางศิลปะของกรุงเทพฯ ด้วยแนวคิด "The Heart of Bangkok" ที่นำศิลปะมาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต

ไฮไลท์สำคัญคือการนำเสนอ One Bangkok Public Art Collection ซึ่งรวมผลงานของศิลปินระดับโลกอย่าง อนิช คาพัวร์ (Sir Anish Kapoor) และ โทนี แคร็กก์ (Tony Cragg) ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ด้วยผลงานแลนด์มาร์กมาแล้วทั่วโลก

อนิช คาพัวร์ เป็นที่รู้จักจากผลงาน "Cloud Gate" หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า "The Bean" ประติมากรรมขนาดใหญ่ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองชิคาโก และ "Dismembermeant Site I" ในประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นเมมเบรนพีวีซีสีแดงขนาดใหญ่ที่ยืดตัวผ่านกลางเนินเขา

ส่วน โทนี แคร็กก์ โดดเด่นด้วยผลงานซีรีส์ "Points of View" ที่กระจายอยู่ตามพื้นที่สาธารณะทั่วโลก และ "Early Forms" ที่แสดงถึงการลดทอนรูปทรงเรขาคณิตสู่ความเป็นนามธรรมและรูปทรงที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ

การนำผลงานของศิลปินระดับโลกมาจัดแสดงถาวรที่ประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะยกระดับวงการศิลปะไทยสู่เวทีนานาชาติ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินไทยได้พัฒนาฝีมือและก้าวไกลสู่ระดับโลก

นอกจากนี้ โครงการยังประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย โรงแรม ศูนย์แสดงนิทรรศการ คอนเสิร์ตฮอลล์ระดับโลก พื้นที่สาธารณะเปิดโล่ง และพื้นที่สีเขียวจำนวน 50 ไร่ ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการซึมซับศิลปะในชีวิตประจำวัน

นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศิลปะในกรุงเทพฯ ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และในอนาคต เราอาจได้เห็นกรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัดอาร์ตแฟร์ระดับโลกก็เป็นได้

แม้ว่าการยกระดับกรุงเทพฯ สู่การเป็นศูนย์กลางศิลปะของภูมิภาคอาจต้องใช้เวลาและความพยายามอีกมาก แต่โครงการ "วัน แบงค็อก" ก็เป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของไทย สร้างความหวังและโอกาสใหม่ๆ ให้กับวงการศิลปะไทยอย่างแน่นอน

ติดตามความเคลื่อนไหวในวงการศิลปะและวัฒนธรรมไทยได้ที่เพจและ IG ของเรานะคะ
💌 Facebook: Slowroom
💌 IG: slowroom_project

เคยส่งสัยไหมว่า Art และ Craft ต่างกันยังไง?ในห้วงคำนึงของการสร้างสรรค์ มีเส้นบางเฉียบที่แบ่งระหว่าง Art (ศิลปะ) และ Craf...
30/09/2024

เคยส่งสัยไหมว่า Art และ Craft ต่างกันยังไง?

ในห้วงคำนึงของการสร้างสรรค์ มีเส้นบางเฉียบที่แบ่งระหว่าง Art (ศิลปะ) และ Craft (งานฝีมือ) เส้นที่บางครั้งก็เลือนรางราวกับสายหมอกยามเช้า แต่กลับเป็นเส้นที่ชวนให้เราตั้งคำถามและค้นหาความหมาย

Art ภาษาของจิตวิญญาณ - เป็นดั่งบทกวีที่เขียนด้วยสี เส้น และรูปทรง
• ไม่จำเป็นต้องตอบสนองประโยชน์ใช้สอย แต่ตอบสนองความต้องการของจิตใจ
• เกิดจากแรงบันดาลใจที่พลุ่งพล่านภายใน ราวกับน้ำพุที่ไหลริน
• เปิดกว้างให้ตีความ เหมือนท้องฟ้าที่แต่ละคนมองเห็นภาพต่างกัน

Craft - ความงามที่จับต้องได้
• เป็นการร้อยเรียงทักษะและความชำนาญเข้าด้วยกัน
• มักมีประโยชน์ใช้สอย แต่ก็แฝงไว้ด้วยความงามที่ลึกซึ้ง
• ต้องการการฝึกฝน เหมือนการปลูกต้นไม้ที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ
• มีรูปแบบที่ชัดเจน แต่ก็เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์ในกรอบนั้น

ที่ SLOWROOM เราเชื่อว่า Art และ Craft ไม่ได้แยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่เป็นเหมือนสองฝั่งของแม่น้ำสายเดียวกัน ที่ไหลหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของมนุษย์ บางครั้ง งานฝีมือที่ประณีตก็สามารถยกระดับเป็นงานศิลปะได้ ในขณะที่งานศิลปะก็อาจถูกนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างงดงาม

วันนี้ ลองมองสิ่งรอบตัวด้วยสายตาที่เปิดกว้าง คุณอาจพบว่า ทุกสิ่งล้วนมีเสน่ห์ของ Art และ Craft ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายบนถ้วยกาแฟ หรือเงาของใบไม้ที่ทอดยาวบนทางเดิน

แล้วคุณล่ะ มีงาน Art หรือ Craft ชิ้นไหนที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณในวันนี้บ้าง? มาแบ่งปันกันได้ที่ SLOWROOM เรารอฟังเรื่องราวของคุณ 🍵

🏮 เปิดประตูสู่ SLOWROOMสวัสดีเพื่อนผู้รักในความงามแห่งกาลเวลา วันนี้เราขอชวนคุณมาสำรวจ SLOWROOM ผ่านประตูแดงลับที่ซ่อนตั...
29/09/2024

🏮 เปิดประตูสู่ SLOWROOM

สวัสดีเพื่อนผู้รักในความงามแห่งกาลเวลา วันนี้เราขอชวนคุณมาสำรวจ SLOWROOM ผ่านประตูแดงลับที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านตลาดน้อย

ตลาดน้อย ชื่อนี้อาจฟังดูเล็ก แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ เป็นย่านการค้าเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เคยคึกคักด้วยเรือสำเภาจากแดนไกล ตึกโบราณที่ยืนตระหง่านมานับร้อยปียังคงเล่าขานประวัติศาสตร์ผ่านรอยแตกร้าวและสีที่ซีดจางตามกาลเวลา

และที่นี่เอง ที่ SLOWROOM เลือกจะตั้งรกราก บนชั้นสองของตึกเก่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วน

เมื่อก้าวผ่านประตูแดง คุณจะพบกับโลกที่ผสานความงามของความไม่สมบูรณ์แบบเข้ากับสุนทรียศาสตร์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เราน้อมรับปรัชญา "วาบิ-ซาบิ" ที่เห็นคุณค่าในความเรียบง่าย ไม่สมบูรณ์ และร่องรอยแห่งกาลเวลา

เหมือนเรือนชาญี่ปุ่นที่อาศัยแสงเงาในการสร้างบรรยากาศ SLOWROOM ของเราก็เช่นกัน เราใช้แสงธรรมชาติที่ลอดผ่านหน้าต่างไม้เก่า สร้างเงาที่เต้นระบำไปตามผนังปูนเปลือย ทุกมุมถูกออกแบบให้ชวนครุ่นคิดและซึมซับความงามของปัจจุบันขณะ

ที่นี่ ความไม่สมบูรณ์แบบคือความงาม รอยแตกบนผนังคือบทกวี และความเงียบคือดนตรีที่ไพเราะที่สุด
SLOWROOM ไม่ใช่แค่พื้นที่ แต่เป็นประสบการณ์ที่ชวนให้คุณหยุด หายใจ และซึมซับความงามของชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ


A Hidden Gem in Talat Noi

Behind a red door in historic Talat Noi, SLOWROOM awaits. Nestled on the second floor of a century-old building, we blend imperfect beauty with Japanese wabi-sabi aesthetics.

Here, natural light dances on bare walls, inviting contemplation and appreciation of the present. SLOWROOM isn't just a space—it's an experience of slow living and timeless beauty.

The Art of Slow Living Through Creative Expressionในห้วงเวลาที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว ศิลปะยังคงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอดี...
29/09/2024

The Art of Slow Living Through Creative Expression

ในห้วงเวลาที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว ศิลปะยังคงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่ SLOWROOM เราเชื่อว่าศิลปะไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราชม แต่เป็นสิ่งที่เราสัมผัส เป็น และสร้างสรรค์

📜 จากถ้ำสู่แกลเลอรี่: การเดินทางของมนุษย์ผ่านศิลปะ

ศิลปะเริ่มต้นตั้งแต่มนุษย์ยุคแรกวาดภาพบนผนังถ้ำ ผ่านยุคกรีกโบราณที่หลงใหลในความงามของสัดส่วน สู่ยุคเรอเนสซองส์ที่ฟื้นฟูความรุ่งเรืองทางปัญญา จนถึงศิลปะร่วมสมัยที่ท้าทายขอบเขตของความเป็นไปได้

แต่ละยุคสมัยมีสุนทรียศาสตร์เฉพาะตัว
- ยุคคลาสสิก เน้นความสมบูรณ์แบบและความสมดุล
- ยุคโรแมนติก แสดงออกถึงอารมณ์และธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
- ยุคโมเดิร์น ท้าทายรูปแบบดั้งเดิมและแสวงหาความเป็นนามธรรม

🌀 Experimental Art การละลายพรมแดนระหว่างศิลปินและผู้ชม
ในยุคปัจจุบัน ศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนผืนผ้าใบหรือในหอศิลป์ Experimental Art เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ

- Performance Art ที่ร่างกายของศิลปินเป็นสื่อในการแสดงออก
- Interactive Installation ที่ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมและเปลี่ยนแปลงงานศิลปะได้
- Sound Art ที่ใช้เสียงในการสร้างประสบการณ์ทางศิลปะ

ที่ SLOWROOM เราเชื่อว่าทุกคนเป็นศิลปินในแบบของตัวเอง และประสบการณ์ทางศิลปะที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อเราได้มีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์


In a world that moves at an ever-increasing pace, art remains a timeless bridge connecting past, present, and future.

At SLOWROOM, we believe that art is not merely something to be observed, but a tangible experience to be lived and created.
From ancient cave paintings to contemporary experimental art, each era has brought its unique aesthetic, challenging and expanding the boundaries of artistic expression.

SLOWROOM invites everyone to become an artist in their own right, offering immersive experiences that blur the lines between creator and audience, and encouraging a deeper connection with oneself and the world through mindful creativity.

วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับบิว อีกหนึ่งผู้ก่อตั้ง SLOWROOM ผู้มีความสามารถหลากหลายในวงการศิลปะในสมัยเรียน บิวเลื...
28/09/2024

วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับบิว อีกหนึ่งผู้ก่อตั้ง SLOWROOM ผู้มีความสามารถหลากหลายในวงการศิลปะ

ในสมัยเรียน บิวเลือกเรียนเอก Mixed Media ซึ่งเปิดโอกาสให้เธอได้สำรวจโลกของศิลปะร่วมสมัยอย่างเต็มที่ 🖼️ งานของบิวมีความหลากหลายและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

• งานคอลลาจ ที่ผสมผสานสื่อต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
• Conceptual Art ที่สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างภาษาและการตีความ
• ผลงานที่เกี่ยวข้องกับมิติของเวลา ชวนให้ผู้ชมได้ครุ่นคิด

ปัจจุบัน บิวได้ก้าวเข้าสู่โลกของการวาดภาพประกอบและการทำหนังสือภาพ (Graphic Novel) ซึ่งเป็นการผสมผสานความรักในศิลปะและการเล่าเรื่อง 📚

นอกจากนี้ บิวยังมีประสบการณ์อันน่าทึ่งในการวาดภาพฉากประกอบให้กับอนิเมะชื่อดังอย่าง "ดาบพิฆาตอสูร" และผลงานของผู้กำกับชื่อดัง มาโคโตะ ชินไก

ด้วยประสบการณ์อันหลากหลายและความเข้าใจในศิลปะหลายแขนง บิวจึงนำมุมมองที่เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์มาสู่ SLOWROOM
เพื่อสร้างพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนในการสำรวจและแสดงออกทางศิลปะ

ติดตาม SLOWROOM เพื่อไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้และสร้างสรรค์ไปกับบิวและทีมงาน! 🌈


Bew, SLOWROOM's other visionary, brings diverse artistic skills to our creative space.
With a background in Mixed Media, Bew's art spans Collage / Conceptual Art / Time-based works

Now, Bew creates illustrations and graphic novels, blending art with storytelling 📚
Her impressive portfolio includes work on famous anime like "Demon Slayer" and Makoto Shinkai's films.

Bew's varied experience enriches SLOWROOM, creating an open space for artistic exploration and expression.
Follow SLOWROOM to create and learn with Bew and our team!

ที่อยู่

857 Charoenkrung, Talad Noi
Bangkok
10100

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Slowroomผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์


วางแผนงานกิจกรรม อื่นๆใน Bangkok

แสดงผลทั้งหมด