26/02/2024
#สถานการณ์ตลาดราคาขายส่ง [Wholesale]กัญชาภายในประเทศไทย ปี 2567
เมื่อปี 2564 ตลาดกัญชาผิดกฎหมาย ราคาเฉลี่ยอยู่ในช่วง 300,000 - 400,000 บาท หลังจากปลดล้อคกัญชา ราคาขายส่งได้ปรับตัวลดลง อย่างมีนัยยะสำคัญนั่นก็คือ เริ่มมีเกษตรกรปลูกเพิ่มมากขึ้น
ในปี 2565 ช่วงปลายปี ราคากัญชาลดเหลือ 200,000 -250,000 บาท/กิโลกรัม และเป็นช่วงที่นักลงทุน นักท่องเที่ยว วัยรุ่นสร้างตัว ทั้งไทย เอเชีย ยุโรป อเมริกา มุ่งหน้ามาสร้างฟาร์มทั้งปลูกในคอนโด อาคารพาณิชย์โกดัง คลังสินค้า ต่างๆ กันแบบก้าวกระโดด ทำให้ปริมาณการผลิตในประเทศไทย เรียกว่า ล้นประเทศ ต้องยอมรับว่าล้นประเทศจริงๆ ทำให้ราคาลดลงมาแค่ 1 ไตรมาส เหลือ 50% เมื่อต้นปี 2566 ราคาลดลงเหลือประมาณ 100,000-150,000 บาท/กิโลกรัม
เมื่อเข้าสู่ไตรมาศที่ 2-3 ของปี 2566 ทุกๆฟาร์มผลผลิตเริ่มทยอยออกมาพร้อมกันในช่วง Low season คือ เดือนพฤษภาคม -พฤษจิกายน 2566 จึงเกิดการลดราคาครั้งใหญ่เพื่อความอยู่รอด โดยลดลงมาอีกกว่า50% ทำให้ราคาขายส่งปลายปี พ.ศ. 2566 เหลือ 50,000 - 130,000 บาท ราคาตามไซส์ ตามคุณภาพและปริมาณในการซื้อขายต่อรอง จะเห็นได้ว่าบรรดาพ่อค้าคนกลางเริ่มขอซื้อที่ 50 - 100 กิโลกรัม เป็นวลีเดียวกัน "ขอเหมาที่ 65,000 ดอก TOP BUD"
ซึ่งดอกกัญชาที่มีคุณภาพ เค้าไม่ขายกันราคานี้ ก็จะมีดอกกัญชาที่คุณภาพรองลงมา คือ ดอกหลวม ดอกแห้ง ดอกกลิ่นไม่ดี ที่ไม่สามารนำไปขายบน Dispensary ได้ เป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายให้พ่อค้าคนกลาง เพื่อนำไปสู่กระบวนการจัดการอีกทอดหนึ่ง ซึ่งไม่ขอกล่าวถึง
ในปี 2567 บรรดาฟาร์มต่างๆ ในประเทศไทยมีทั้งเลิกกิจการ และขยายกำลังผลิต และมีบริษัท ขนาดใหญ่เข้ามาลงธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทางเราคาดการณ์ว่าราคาขายส่งของดอกที่มีคุณภาพ พรีเมี่ยม น่าจะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 60,000 - 140,000 ขึ้นอยู่กับปริมาณในการจัดจำหน่ายต่อครั้ง ซื้อน้อยย่อมแพงกว่าซื้อเหมา หรือทำสัญญา
ประกอบกับฟาร์มต่างๆ เข้าถึงเทคโนโลยี และมีประสบการณ์ในการปลูก เพิ่มมากขึ้น และคุณภาพไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
แต่ส่วนใหญ่จะประสบปัญหา โรคและแมลงเข้าทำลายในระบบปิด เนื่องจากนักปลูกจากต่างชาติไม่เข้าใจการเลือกสถานที่ตั้ง โรคและแมลงในประเทศไทยบ้างครั้งมาจากพื้นที่พืชอื่นข้างเคียง เนื่องจากไทยไม่มีระบบโซนนิ่งการปลูกพืช ยิ่งแสงไฟเยอะแมลงยิ่งชอบบินเข้าหา ด้านจัดการตาก การบ่ม ก็เป็นขั้นตอนที่ทุกฟาร์มโดยเฉพาะฟาร์มใหญ่ๆยังประสบปัญหา ซึ่งต้องใช้เครื่องมือมาช่วยในการจัดการ
คิดว่าในปี 2568 คงจะพร้อมและพัฒนาทันกันหมดทุกฟาร์ม เพราะฉะนั้นแล้วราคาในเมืองไทยคงไม่ได้สูงไปกว่านี้อีกแล้ว
" ตื่นเถิดชาวไทย อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลงจากฝัน หรืออดีตที่หอมหวานได้แล้ว กัญชากัญชง คือพืชเกษตร ราคาย่อมแปรผันตามสถานการณ์ "
สำหรับ Home Grow ควรมีจุดเด่นของตนเอง เช่น สายพันธุ์ที่เด่นชัด หายาก ปลูกให้ได้คุณภาพมากที่สุด ถึงกระนั้นราคาขายก็ไม่ได้แตกต่างจากฟาร์มใหญ่เท่าไหร่ แต่กระบวนการเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ ควรที่จะทำได้ดีกว่า เป็นเท่าตัว เช่น หากฟาร์มใหญ่ทำได้ 100 กรัมต่อตารางเมตร เราต้องให้ได้ 200 กรัมต่อตารางเมตร ต้องไปหาสูตร เคล็ดลับ แสวงหาคัมภีร์ต่างๆ มาฝึกปรือ...